[Tlc] Pol Gen Vasit in Matichon

Michael Montesano michael.montesano at gmail.com
Tue Mar 17 20:40:05 PDT 2009


http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act03170352&sectionid=0130&day=2009-03-17

   วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11329 มติชนรายวัน


*แผนการล้มระบอบประชาธิปไตย แบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข*

โดย วสิษฐ เดชกุญชร



ใน มติชน ฉบับวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2551 ผมเขียนเรื่อง
"หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์" เพื่อเตือนท่านผู้อ่านให้รู้ว่า
คนไทยบางคนมีพฤติการณ์ลบหลู่หรือหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์
อาจเป็นเพราะหลงเชื่อตามวิชาการฝรั่งที่ตนได้เรียนมา ในบทความนั้น
ผมได้เรียกร้องให้ญาติมิตรช่วยกันเตือนห้ามปราม
ให้คนไทยประเภทนั้นยุติพฤติการณ์ของตน

มาถึงวันนี้ สามเดือนให้หลัง ผมแน่ใจเสียแล้วว่า
พฤติการณ์ลบหลู่หรือหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์นั้น
เป็นแต่เพียงส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่และล้ำลึกกว่านั้น

แผนการที่ว่านี้
คือแผนการล้มการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ที่ผมสงสัยเช่นนี้ก็เพราะว่า
การลบหลู่และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ที่เกิดขึ้นแล้วนั้น
แม้จะดูเหมือนต่างคนต่างกลุ่มต่างทำ แต่ก็เกิดพร้อมหรือในเวลาไล่เรี่ยกัน
เหมือนนัดหรือมีคนบงการหรือประสานงาน ทั้งยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วย
เริ่มเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2551
เมื่อสิ่งพิมพ์ต่างประเทศบางฉบับปรักปรำพระมหากษัตริย์ด้วยข้อเขียนที่ก้าวร้าว
พร้อมๆ กับที่ "นักวิชาการ"
ฝรั่งระดับศาสตราจารย์ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ก็เขียนและเผยแพร่บทความโจมตีพระมหากษัตริย์ในทำนองเดียวกัน
และยังมีพฤติการณ์อย่างอื่นของคนกลุ่มอื่น รวมทั้งชาวต่างประเทศ
ที่ดูเหมือนจะทำโดยเจตนาจะให้เห็นว่า
การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น
จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นอุปสรรคของการ "พัฒนา"
ประชาธิปไตยในเมืองไทย

เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้เอง "นักวิชาการ" ไทยและฝรั่งกลุ่มหนึ่ง
นำโดยคนไทยที่ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในอเมริกา
ได้เข้าชื่อกันมีจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายอาญา
ในส่วนที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ที่เรียกเป็นภาษาฝรั่งว่า lese
majeste จดหมายฉบับนี้ เรียกร้องให้ยุติมาตรการปราบปรามบุคคล เว็บไซต์
และการแสดงความคิดเห็น "โดยสันติ"
และเจาะจงขอให้ปฏิรูปกฎหมายที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์
เพื่อป้องกันการข่มเหงรังแก
ซึ่งผู้เขียนอ้างว่าอาจจะทำลายชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศไทยและพระมหากษัตริย์
ยิ่งกว่านั้น
ผู้เขียนจดหมายยังเรียกร้องให้มีการถอนฟ้องผู้ต้องหาว่าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์
และให้ปล่อยตัวผู้ที่ต้องคำพิพากษาแล้ว โดยเหตุผลว่าคนเหล่านั้น
"ถูกกล่าวหาดำเนินคดีเพราะแสดงความคิดเห็นของตน" ซึ่งไม่ควรถือเป็นอาชญากรรม

การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า constitutional monarchy นั้น ถ้าแปลตรงๆ
ตามคำภาษาอังกฤษก็ควรจะแปลว่าระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
คือเป็นระบอบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
แต่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงมีพระราชอำนาจอย่างสมบูรณ์ ไม่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์
(absolute monarchy) แต่พระราชอำนาจถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นกฎหมายแม่บท สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน
โดยผ่านรัฐสภา ใน พ.ศ.2475 เมื่อ "คณะราษฎร์" ทำการปฏิวัติสำเร็จ
และยึดอำนาจการปกครองจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้
กลุ่มผู้ยึดอำนาจเองเห็นว่า เมืองไทยยังต้องมีพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้น
จึงเปลี่ยนระบอบการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

ตั้งแต่นั้นมาจนถึงบัดนี้ รัฐธรรมนูญไม่ว่าฉบับใด ร่างโดยใคร
ก็ยังธำรงระบอบนี้เอาไว้
แสดงว่าประชาชนคนไทยทั้งชาติยังเคารพสักการะและต้องการให้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่
รัฐธรรมนูญจึงต้องสะท้อนความเคารพสักการะนั้น
และจึงต้องระบุไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ
ผู้ใดจะละเมิดมิได้

มาตรา 112 ในประมวลกฎหมายอาญา ที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น
หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท
หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก็เป็นไปตามนัยของรัฐธรรมนูญ
หรือเจตนารมณ์ของประชาชนนั่นเอง

ใครที่อยากล้มระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญย่อมทำได้ง่ายนิดเดียว
ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญเสียใหม่ อย่าให้มีพระมหากษัตริย์

แต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะประชาชนคนไทยทั้งชาติ เขายังเคารพสักการะ เห็นความสำคัญ
และยังต้องการให้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่
เมื่อการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ให้มีบทบัญญัติเช่นนั้นทำไม่ได้
ผู้ต้องการล้มระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญก็ย่อมต้องหาและใช้กลวิธีอื่นที่มันนึกว่าลึกซึ้ง
แนบเนียน และแยบยลกว่า

เช่นอาศัยหรือจ้างสื่อและ "นักวิชาการ" ต่างชาติหรือครึ่งชาติ ที่ขายข่าว
ขายตัว หรือขายชาติ เรียกร้องสิทธิเสรีภาพโดยอ้างแบบหรือวัฒนธรรมต่างชาติ

หรือพูดให้เป็นข่าว เพื่อให้เข้าใจผิดๆ
ว่าพระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจสมบูรณ์ อาจพระราชทานอภัยโทษให้ได้
แม้แก่อาชญากรที่กระทำความผิดแล้วหลบหนีคดีอาญา

หรือพูดให้เป็นข่าว เพื่อให้เข้าใจผิดๆ ว่า
พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจสมบูรณ์ อาจลบล้างได้แม้คำพิพากษาของศาลยุติธรรม
ที่พิพากษาลงโทษอาชญากรไปแล้ว

คนไทยที่ยังเคารพสักการะ มีศรัทธา
และเชื่อว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นหลักประกันประชาธิปไตยและความสงบสุขของบ้านเมือง
จึงควรตระหนัก ตื่นตัว ไม่นิ่งดูดาย
และต้องติดตามจับตาดูพฤติการณ์เช่นว่านี้ให้ใกล้ชิด

ในขณะเดียวกัน ก็จะต้องทำทุกวิถีทุกวิธี
ที่จะผดุงธำรงระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเอาไว้
ด้วยการเปิดเผยตัว แสดงความเห็น ตอบโต้ด้วยเหตุผล และเผยแพร่เหตุผลของตน
เผยแพร่พระบารมีและพระราชกรณียกิจแห่งพระมหากษัตริย์
ที่ได้พิสูจน์แล้วด้วยกาลเวลาว่า มีแต่คุณประโยชน์และไม่เคยเป็นโทษแก่บ้านเมือง

อย่ายอมให้คนอสัตย์ที่เรียกตัวว่าไทยแต่ใจทาส
ทำลายสิ่งที่เราเชื่อว่ามีคุณค่าควรแก่การรักษาไว้คู่บ้านคู่เมืองได้

หน้า 6
-------------- next part --------------
An HTML attachment was scrubbed...
URL: http://lists.ucr.edu/pipermail/tlc/attachments/20090318/7799d9e3/attachment-0001.html 


More information about the Tlc mailing list