[Tlc] T-politics

justinm at ucr.edu justinm at ucr.edu
Wed May 28 10:06:33 PDT 2008


See the speech on voting and Thai politics forwarded to me below. It may be of interest to students of American-Thai comparative politics.
Thanks,
justin
ถอดคำพูดฉบับเต็ม! ลมปากเพ็ญinอเมริกา แขวะหลวงตา'หูเบา' หยัน'นางพญาผมขาว'	พิมพ์	อีเมล์
Tuesday, 27 May 2008
Image
หมายเหตุไทยอินไซเดอร์ : เป็นการถอดคำปาฐกถาแบบคำต่อคำของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่กล่าวบรรยายต่อคนไทยในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 

คำต่อคำการปาฐกถา “การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง” ที่สหรัฐอเมริกา โดยจักรภพ เพ็ญแข 

10 พฤศจิกายน 2550
 
สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่เคารพรัก ที่อยากเจอกันมานานแล้ว ทุก ๆ ท่านครับ เห็นอย่างนี้แล้วเนี่ย อยากปราศรัยมากกว่าบรรยาย (เสียงตบมือ) รู้สึกบรรยากาศมันชวนให้ปราศรัยเหลือเกิน เราจะคุยกันไปเรื่อย ๆ ก่อนนะครับ ผมคงจะไม่บรรยายเป็นเรื่องเป็นราวในแง่วิชาการมากนัก เพราะจุดประสงค์วันนี้เนี่ย อยากให้พี่น้องชาวไทยในสหรัฐฯ ได้ฟังข้อมูลอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เราถูกถมทับด้วยข้อมูลของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคณะ ASTV มานานพอสมควร ในอันดับแรกสุดผมอยากจะเรียนก่อนอื่นว่า ทำไมเราถึงคอยนานนัก กว่าจะมายังสหรัฐอเมริกา ทำไมรอให้เรื่องโกหกมันเต็มเมือง เต็มโลกไปหมด จนเกิดการรัฐประหารแล้วถึงจะมา เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ ในช่วงที่เกิดเครือข่ายพันธมิตรของประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้รวบรวมผู้คนและจัด
ตั้งขึ้น ข้อมูลที่เป็นเท็จมันออกมาแล้ว ทั้งเรื่องของการฉ้อราษฎร์บังหลวงในบางโครงการ ซึ่งอธิบายได้ เรื่องของความไม่จงรักภักดี ข่าวว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรดนายกฯทักษิณ นายกฯทักษิณแย่งความเด่นจากพระเจ้าอยู่หัว ในงานเฉลิมพระเกียรติ สิ่งเหล่านี้มันอธิบายได้ตั้งแต่บัดนั้น แต่เหตุที่ไม่ได้มายังสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เพราะไม่เห็นความสำคัญ รู้ว่าพี่น้องทางนี้เนี่ย เป็นผู้ที่รักเสรีภาพ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เลือกอยู่ประเทศนี้ ย่อมจะมีความหมาย มีความสำคัญ แล้วเราอยากอธิบายให้ฟัง แต่เหตุที่ไม่อธิบายในตอนนั้น หรือยังไม่มาก็เพราะว่า เป็นที่เชื่อกันว่าความเคลื่อนไหวของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลนั้น มีบุคคลสำคัญระดับประเทศอยู่เบื้องหลัง ในขณะนั้นเนี่ยไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ว่า ได้รับความสนับสนุนจากระดับนั้นจริงหรือเปล่า หรือà¹
€à¸›à¹‡à¸™à¸£à¸²à¸„าคุยของสนธิ ลิ้มทองกุล ที่บอกนางฟ้ามาสนับสนุนน่ะ จริงหรือเปล่า นางฟ้าเอาเงินมาให้ 2 แสน 5 จริงหรือเปล่า ในที่สุดนายกฯทักษิณในขณะนั้นจึงบอกว่า เมื่อเรายังไม่ทราบความจริง การออกไปต่อปากต่อคำ การออกไปต่อสู้อาจจะนำมาซึ่งความแตกสลายของประเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือว่า เราก็ยังคิดอย่างไร้เดียงสากันว่าความเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมันจะจบได้ด้วยการเจรจา มันจะจบได้ด้วยการทำความเข้าใจ ก็เลยตัดสินใจไม่โต้ตอบทั้งที่ความจริงพี่น้องครับ ผมเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผมเป็นโฆษกรัฐบาล เป็นหน้าที่ผมที่ต้องชี้แจงเรื่องทำบุญวัดพระแก้ว ชี้แจงเรื่องงานเฉลิมพระเกียรติที่กษัตริย์ทั้งหลายเสด็จไปเมืองไทย แล้วมีข่าวออกทางอีเมลล์ Forward กันทั่วโลกว่านายกฯทักษิณไปแย่งซีนพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเกี่ยวกับเครà¸
·à¹ˆà¸­à¸‡à¸šà¸´à¸™à¸›à¸£à¸°à¸ˆà¸³à¸•à¸³à¹à¸«à¸™à¹ˆà¸‡à¸™à¸²à¸¢à¸à¸¯ ซึ่งมีชื่อว่า “ไทยคู่ฟ้า” ว่าไปตกแต่งเลิศหรูยิ่งกว่าเครื่องบินพระที่นั่ง เหล่านี้ผมเป็นโฆษกรัฐบาล ผมต้องตอบ ขอเรียนพี่น้องด้วยความช้ำใจ แล้วตอนนี้ก็พูดได้แล้วว่า ในตอนนั้นเนี่ย ผมต้องเอาอะไรกัดปากอยู่ตลอดเวลา ผมอยากจะชี้แจงตั้งแต่บัดนั้น แต่ในเมื่อนโยบายยังไม่ชี้แจง ก็ต้องทนกันต่อไป ทนให้มีการโกหกต่อเนื่อง อย่างยาวนาน 
คุณสนธิ ลิ้มทองกุลเนี่ย เป็นคนเก่ง มีความสามารถในการลำดับความคิด ในการอธิบายความอย่างหาตัวจับได้ยาก แต่บังเอิญว่ามีความคิดฉ้อฉล ความเก่งนั้นก็เลยเป็นความเก่งที่ฉ้อฉล แต่ไม่ได้ทำให้คุณสนธิไม่เก่งนะครับ วันนี้คุณสนธิไปบวช ผมก็ขออนุญาตเรียกว่า เป็นคนในผ้าเหลือง จะเรียกว่าพระหรือไม่ ขอตรวจสอบอุปัชฌาย์ว่า มีสิทธิ์จะบวชหรือไม่ (เสียงตบมือ) เพราะถ้าหากยอมรับเป็นพระ เดี๋ยววันหลังก็จะได้มาใบ้หวยแถวนี้ ก็จะเดือดร้อนกันใหญ่เท่านั้น เพราะคุณสนธิทำอะไรหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง แต่นั่นแหละครับ หลายสิ่งหลายอย่างที่คุณสนธิได้มาบรรยายที่สหรัฐอเมริกาแล้วออกทาง ASTV มันน่าเชื่อถือ เพราะว่าความไม่โปร่งใสในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งผมมีส่วนร่วมอยู่ด้วย มันเกิดขึ้นจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันอธิบายได้ว่าใครเป็นคนทำ แล
้ววันนี้ยิ่งอธิบายง่าย เพราะไปอยู่พรรคอื่นกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว จะได้แยกภาพในสิ่งที่ตอนนั้นมันแยกไม่ออก มันเหมือนต้องร่วมเตียงอยู่กับโจร แต่วันนั้นเตียงมันยังไม่หัก มันก็พูดไม่ออก เหมือนคนอยู่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา 20–30 ปี มันน้ำท่วมปากครับ พี่น้องครับ รู้ว่าไม่ดี รู้ว่าไม่โปร่งใส แต่มันก็มีประโยชน์ร่วมทางการเมืองที่ต้องอยู่ร่วมกันต่อไป พูดง่าย ๆ คือต้องทนข้อบกพร่องและเพื่อจะไปทำงานใหญ่ อึดอัด ไม่อยากร่วมงานกันหรอกครับ แต่มันทำยังไงได้ ผมจะขอเล่าเป็นลำดับ เพราะฉะนั้นจุดแรกเลยต้องตอบก่อนว่าที่มาช้า เพราะตอนแรกนโยบายคืออย่าไปต่อปากต่อคำกับคนที่อยู่เบื้องหลังคุณสนธิ เดี๋ยวมันตกลงกันไม่ได้ ก็รอจนกระทั่งเกิดการยึดอำนาจของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งถ้านับในแง่ของอำนาจที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพของแต่ละคนมีอยà¸
¹à¹ˆà¸™à¸°à¸„รับ ไม่ว่าจะเป็น ผบ.ทบ. ผบ.ทอ. ผบ.ทร. ต้องขอประทานโทษอย่าหาว่าผมก้าวร้าวเลย ถ้าดูจากความสามารถของผู้บัญชาการแต่ละท่านเนี่ย เป็นการรัฐประหารที่กระจอกที่สุดที่เคยมีมา (เสียงตบมือ)
เหตุที่พูดอย่างนั้น ไม่ใช่ไปดูถูกคนเฉย ๆ แต่เพื่อจะบอกว่า รัฐประหารไหนก็ตามที่ตัวไม่ได้คิดจะทำเอง แต่เขาสั่งให้ทำเนี่ยมันกระจอกทั้งนั้น นี่คือการรัฐประหารที่ไม่รู้ว่ายึดแล้วจะทำอะไรต่อ ยึดแล้วอ้าปากหวอ งง คอยเสียงกระซิบ แต่ระหว่างนั้นเองเนี่ย ตัวก็ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นผู้เผด็จการใช่มั๊ยครับ เงินทองเริ่มไหลเข้ามาใช่มั๊ยครับ คนเริ่มวิ่งเข้าไปหาใช่มั๊ยครับ ชักเริ่มติด จากเดิมซึ่งไปยึดอำนาจแทนเขา เขาสั่งมา เลยกลายเป็นอยากอยู่นานขึ้น ได้ความคิดสืบทอดอำนาจมันถึงได้มี ทั้งหมดนี้ผมเล่าเป็นคร่าว ๆ เดี๋ยวผมจะมาลงในรายละเอียดหมดในแต่ละเรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนยึด แล้วมันติดยึดกันได้ยังไง พล.อ.สนธินี่คือใคร พล.อ.อ.ชลิต เนี่ยมาได้ยังไง พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เนี่ย เป็นผบ.ทร. โดยใคร และพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ทำไมถึงวิ่งà¸
«à¸™à¸µà¸à¸²à¸£à¸£à¸±à¸à¸›à¸£à¸°à¸«à¸²à¸£à¸ˆà¸™à¸–ึงทุ่มนึงแล้วจึงถูกเรียกตัวแล้วไปอย่างไม่เต็มใจ ที่สวนจิตรดารโหฐาน พระราชวังดุสิต 
ทั้งหมดนี้พอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่น้องตัดสินใจเองครับ ผมไม่ต้องมานั่งบอกเลย เพราะเรื่องมันจะบอกในตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายท่านอาจจะไม่ทราบ เพราะว่าสื่อสารมวลชนในบ้านเราเอง ถ้าไม่มีผลประโยชน์ก็อ่อนแอเกินไปที่จะพูดความจริง ก็ทำให้เขาตัดสินใจไปยึดอยู่กับคนที่เขาเชื่อว่ามีอำนาจมากกว่า ตามประสาของสังคมข้าทาส ซึ่งมองหานาย...... ใหม่อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้มันถึงได้นำมาสู่ภาวะที่ขาดเหตุขาดผล และอันที่ 2 ครับที่อยากจะกราบเรียนว่า อันที่ 1 บอกไปแล้วว่า ตอนแรกมีนโยบายจะไม่อธิบาย เสร็จแล้วพอเกิดรัฐประหารขึ้น พอหลังจากนั้นเราก็ถูกคุมกำเนิด ไม่สามารถที่จะพูดที่ไหนได้ ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ได้มาสหรัฐฯ ไม่ได้มาอธิบายให้พี่น้องได้ฟังอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุผลประการที่ 2 นั้นอยากเรียนพี่น้องให้สบา
ยใจเลยว่า ผมเองในบัดนี้ ผมรักคุณทักษิณ แต่ผมไม่ได้รักคุณทักษิณมาก่อนเลย ผมไม่ได้เคยเห็นว่าคุณทักษิณเป็นคนพิเศษ ที่ผมต้องเปลี่ยนชีวิตตัวผมเองมาต่อสู้เพื่อคุณทักษิณ แต่เวลา 3 ปี เกือบ 4 ปีที่ผมอยู่กับคุณทักษิณแบบใกล้ชิด แล้วอยู่ร่วมกันทุกวัน ผมถึงได้เห็นน้ำใจของคน ๆ นี้ ว่าคน ๆ นี้เป็นอย่างไร และจากที่ผมเห็นจากจุดนั้นเป็นต้นมาจนบัดนี้ ผมถึงได้ปวารณาตัวเองว่า เพื่ออยู่กับคุณทักษิณ เพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าจะต้องไปกับคุณทักษิณไม่ว่าในแง่ของความตกอับด้วยกัน หรือว่าด้วยชีวิตเนี่ยผมก็พร้อมแล้ว ผม Commit คุณทักษิณ (เสียงตบมือ)
แล้วถ้าใครจะบอกว่าเป็นเรื่องของเงิน คุณทักษิณจ้าง คุณทักษิณให้เงินผมซื้อบ้าน คุณทักษิณให้เงินไปฝากธนาคารที่ไหน ก็พิสูจน์มา ไปสืบค้นมาให้ได้ ผมท้า เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เนี่ย เราจะได้บอกกันอย่างหน้าชื่นตาบานเสียทีว่า ในประเทศไทยของเรา ซึ่งคนพยายามจะทำความดี แล้วหลายคนก็ท้อถอยไปแล้ว ผมเชื่อว่าหลายท่านในสหรัฐอเมริกา คือคนที่เคยต่อสู้เพื่อความถูกต้องมาแล้วแต่เบื่อ ท้อถอย และเห็นว่าประเทศไทยเนี่ย มันด้อยพัฒนาเข็นไม่ขึ้น แต่ว่าเมื่อเรามีคนที่ตั้งใจจะเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ผลักดันให้เกิดประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลง ตัวผมเองมีความรู้สึกว่าผมปล่อยให้คนนั้นเนี่ย ตายไปต่อหน้าผมไม่ได้ และการทำร้ายคุณทักษิณ และการทำลายประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น ในขณะนี้มันเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบเสียจนกระทั่งว่า ถ้าเราไม่รวมพลกันมาต่อสà¸
¹à¹‰à¸•à¸­à¸™à¸™à¸µà¹‰ ประเทศไทยจะกลายเป็นเผด็จการไม่ต่างจากพม่าในเวลาไม่ช้านาน ขณะนี้มันคืบคลานไปสู่จุดนั้นนะครับ ผมไม่ทราบว่าคุณคมชาญมาหรือเปล่าวันนี้ ตัวแทน กกต. หรือใครเป็นตัวแทน กกต.เนี่ย มานั่งข้างหน้าเลย (เสียงตบมือ) 
ถ้าจับเป็น.... (ฟังไม่ชัด) ประเด็นก็คือว่า กฎเกณฑ์ของกกต.เนี่ย เราพร้อมจะยอมรับ แต่มันเริ่มจะ Silly ขึ้นทุกที มันเริ่มจะแสดงให้เห็นว่าใครที่มีศรัทธาในประชาธิปไตยเริ่มจะมีความผิดทางกฎหมาย กลายเป็นว่าคนที่จะเป็นประชาชนไปได้ต่อจากนี้ไป ต้องแสดงความไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แสดงตัวว่าเป็นพรรคไหน ชอบพรรคการเมืองคนใด คิดยังไม่ได้เลย ถ้า กกต. ได้ยินเข้าจับ บางทีมันออกมาทางจมูก หรือหู ก็คอยจับกันให้ดีก็แล้วกัน เอางี้ก็แล้วกันครับว่า กกต. เนี่ย ซึ่งก็ทำอะไรดีหลายอย่างผมยอมรับ แต่สำหรับการมาจาริกขู่คนไทยในสหรัฐอเมริกาเป็นการกระทำที่น่าละอาย แล้วผมก็อยากจะบอกว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับคนไทยในสหรัฐอเมริกาเลยนะครับ ขอฝากบอกด้วย ไม่มีใครบอกให้ผมพูดในสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปจากนี้ผมพูดเอง ไม่มีใครมา Script ผม ไà
¸¡à¹ˆà¸¡à¸µà¹ƒà¸„รมาฝากเรื่องอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคนที่มาในห้องนี้เนี่ย มาฟังอย่างเดียว แล้วความรับผิดชอบเป็นของผู้พูดแต่เพียงสถานเดียว ผู้จัดก็รับผิดชอบแต่เฉพาะว่า อาหารพอหรือเปล่าเท่านั้น (เสียงตบมือ) ซึ่งก็ไม่ผิดกฎ กกต. บรรยากาศแบบนี้ใครที่ไหนก็ช่วยกันเอามา แต่ว่าจัดการให้เผื่อแผ่ให้ทั่วถึง เพราะฉะนั้นก็ตกลงกันซะก่อนนะครับตรงนี้เป็นอุ่นเครื่อง แต่เครื่องทำท่าจะร้อนเร็ววันนี้ ก็เห็นหน้าเห็นความตั้งใจแล้วมัน แหม! ทนไม่ได้ เอางี้ครับ ผมเตรียมเอกสารมาเป็นปึกเลย แต่ไม่อยากใช้เอกสารแล้วล่ะ เราเรื่องให้ฟังดีกว่า ผมอยากจะเล่าซัก 2-3 ตอน นะครับ แล้วอยากให้พี่น้องได้ถาม ถามตรงเลย แล้วผมก็จะตอบตรง ถามถึงบุคคลก็ได้ แล้วจะตอบเรื่องบุคคล เพราะการตอบนั้นจะได้อธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่ผมลืมไประหว่างบรรยายก็ได้ พี่น้องอยาà¸
à¸—ราบอะไรได้โปรดอย่าได้ลังเลใจหรือว่าระงับยับยั้งนะครับ ถามได้ทันที
ผมเองนั้นมีความสัมพันธ์กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุลเนี่ยมาก่อนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนะครับ การที่ผมโชคดีได้รู้จักบุคคลทั้ง 2 แล้วก็รู้ว่าถ้าคน 2 คนนี้ร่วมมือกันได้ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง แต่ในเมื่อจุดยืนของแต่ละคนไม่ตรงกัน คนนึงเลือกอาชีพนักธุรกิจ แล้วกลายเป็นนักการเมือง อีกคนนึงเลือกอาชีพกรรโชกทรัพย์ มันก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ (เสียงตบมือ) ทั้งที่เคยคบหากันมานาน เป็นเพื่อนที่มีความเท่าเทียมกันทางภูมิปัญญา ผมสามารถจะพูดได้อย่างนั้น วิสัยทัศน์ของคุณสนธิเนี่ย เป็นวิสัยทัศน์ที่เลิศมากในแง่ของสื่อมวลชนระหว่างประเทศ ในระยะก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนจุดยืนมา ผมคงจะประสมประสานประสบการณ์แบบนี้เข้าไป ไม่ได้พูดถึงใครโดยเฉพาะอย่างเดียว เพราะว่าหลักใหญ่เราจะพูดถึงเรื่องของเหตุการณ์ในเมืองไทยในเชิงวิเคราะห์วิจารณ์ ว่à
¸² 19 กันยา 49 มันเกิดอะไรขึ้น ขณะนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้น แล้วต่อไปมันน่าจะเกิดอะไร หลัก ๆ ก็จะมีอยู่ 3 ตอนนะครับ ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นซะก่อน 
ในขณะที่เกิดเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารของนายกฯทักษิณ คือเกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมอยากทบทวนให้พี่น้องได้เห็นกันซักนิดนึง ทุกท่านทราบอยู่แล้วครับเกิดอะไรขึ้น นี่เป็นการทบทวนกัน จำได้มั๊ยครับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุลเนี่ย ไม่ได้ก่อตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเราขอเรียกสั้น ๆ ว่า พันธมิตรฯ มาก่อนนะครับ คุณสนธิเนี่ยเริ่มต้นด้วยการจัดรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ทางช่อง 9 อสมท. ระหว่างนั้นเอง คุณสนธิก็ได้ติดต่อประสานงานกับรัฐบาลทักษิณ โดยผ่านผมบ้าง ผมเป็นโฆษกรัฐบาล ผ่านทางคุณผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวผู้ช่วยส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีทักษิณบ้าง เพราะว่าท่านเป็นคนรุ่นเดียวกันรู้จักกันมา คุณสนธิก็ได้รับประโยชน์ในสิ่งที่มันไม่ได้ผิดและไม่ได้เป็นการเอาเปรียบคน
อื่นในหลายเรื่อง อาศัยว่าอยู่ใกล้แหล่งข้อมูลก็สามารถไปประมูลงาน ได้สัมปทานต่าง ๆ อย่างที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย อย่างนั้นก็พอจะช่วยกันได้ การบินไทยจะเปลี่ยนเก้าอี้นั่งบนเครื่องบิน ซึ่งเมื่อก่อนนี้มันเก่าขนาดที่ต้องเอาไปใส่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ก่อนจะมาเป็นเก้าอี้ชนิดปัจจุบันนี้ ซึ่งพอเราติดตั้งเสร็จ สิงคโปร์แอร์ไลน์ก็ไปอีกรุ่นนึงแล้ว คนที่ได้สัมปทานในการเปลี่ยนเก้าอี้บนเครื่องบินการบินไทยทั้งหมด คือสนธิ ลิ้มทองกุล (เสียงอ๋อ และตบมือ) ขอบคุณครับ เพราะฉะนั้นก็เรียกว่า ไม่ได้มีอะไรผิดหวังจากการที่ได้ใกล้ชิดกับรัฐบาล แต่ถ้าหมายความว่า ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ไปหยิบยื่นให้คุณสนธินะครับ ก็ต้องเข้าประมูลเหมือนกัน แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้แหล่งข้อมูล พี่น้องที่เป็นนักธุรกิจก็รู้ ว่าข้อมูลเนี่ยมีค่ายิ่งกว่าเงิน จะไ
ม่ชนะประมูลก็ได้ จะไม่ได้งานรัฐบาล......(ฟังไม่ชัด) ต่อมาก็ขอนั่นขอนี่อีกหลายอย่าง จนกระทั่งในที่สุดเนี่ย มาถึง 2 เรื่อง ซึ่งให้ไม่ได้ 2 เรื่องที่ให้ไม่ได้นั้นก็คือ อยากให้คุณวิโรจน์ นวลแข เป็นเบอร์ 1 ที่แบงก์ทหารไทย ขอโทษครับที่แบงก์กรุงไทย คุณวิโรจน์ก็ไปที่นั่น แต่หลังจากที่มีข้อตกลงกันในเชิงที่ว่า อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับหนี้สินของคุณสนธิ บทบาทของคุณวิโรจน์ นวลแข ก็ไม่ใช่บทบาทของคนปกป้องธนาคารของรัฐ แต่เริ่มจะทำให้เกิดข้อสงสัยในหมู่พวกเราว่า จะเป็นไปเพื่อเปลื้องหนี้สินเป็นการส่วนตัวหรือไม่ คุณวิโรจน์ นวลแขก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป ก็ต้องมีอันเป็นไป 
อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของการคือ คือ วิโรจน์ นวลแขเนี่ยเป็นเบอร์ 1 ของแบงก์กรุงไทยอยู่แล้ว แต่ความต้องการตอนนั้นเนี่ย ก็คือต้องการจะให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย วิ่งเต้นให้เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ ก็ไม่ได้เกิดเหตุไป อันที่ 2 สร้างสถานีโทรทัศน์เถื่อนขึ้นมา ไม่ใช่ ASTV แต่มีชื่อว่า 11/1 ซึ่งเป็นช่องที่ใช้สัมปทานของกรมประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อไม่ได้รับให้ออกอย่างเป็นทางการ ก็ใช้วิธี ทับ 1 (หมายถึง /1) คือลวงให้คนเข้าใจว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลในที่สุด แต่ไม่ได้รับอนุญาตไม่มีสัมปทาน ถ้าถามว่าทีวีเมืองไทยมันตั้งยากขนาดไหน พี่น้องก็ดู iTV สิครับ ตั้งขึ้นมาเนี่ยยังจ่ายค่าสัมปทานไม่ครบเลย เพราะว่าค่าสัมปทานในเมืองไทยมันแพงมาก เพราะเมืองไทยยังมีการผูกขาดอย่างเข้มข้นในเรื่องการสื่อสารมวลชน เพราะผู้มีอำนาจเมืองไทยรูà¹
‰à¸”ีว่าสื่อสารมวลชน เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้คนฉลาดขึ้น ประเทศโน้น เขาไม่ต้องการให้คนฉลาดขึ้น เขาต้องการให้คนโง่ต่อไป เพราะฉะนั้นการที่รักษาสัมปทานสถานีโทรทัศน์ให้มันแคบอยู่เฉพาะพวกตัวเอง คนที่มีความสามารถในการทำโทรทัศน์มีเยอะแยะ แต่ไม่ได้รับโอกาสนั้น กองทัพบกมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ ควรชำนาญเรื่องปืน รถถัง และการทำสงคราม ดันมีโทรทัศน์ตั้ง 2 ช่อง (เสียงตบมือ) มีสถานีวิทยุอีกเป็นร้อย เหล่านี้เพื่อไม่ใช่ผลทางด้านของการทำสงครามแล้ว แต่เป็นกลไกในการผูกขาดอำนาจในประเทศ โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ เพราะฉะนั้นเวลาเกิดการเลือกระหว่างทหารกับพลเรือน ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย พี่น้องจะไปแปลกใจทำไมว่าช่อง 5 ช่อง 7 จะยืนข้างไหน อสมท. ซึ่งเป็นของรัฐจะยืนข้างไหน ช่อง 3 ซึ่งเป็นสัมปทาน อสมท. จะยืนข้างไหน iTV ซึ่งก็เป
็นสัมปทานของรัฐแต่ให้เอกชนแล้วเอาปืนจี้อยู่ตลอดเวลาในเรื่องหนี้สิน เมื่อไหร่จะยกเลิกสัมปทานก็ได้ สงสัยมั๊ยครับว่าจะอยู่ข้างไหน เพราะฉะนั้นในเมืองไทยเนี่ย เรื่องของทีวี วิทยุ จึงไม่ใช่ความหวังเลย ไม่แปลกใจเลยที่เล่นบทนี้ เพียงแต่ว่าหนังสือพิมพ์เลือกที่จะมาเล่นบทเดียวกันนั่นเป็นเรื่องที่เป็นปริศนา ซึ่งเราต้องมานั่งอธิบายว่าทำไมไม่เฉพาะผู้จัดการ ทำไมถึงมีเดลินิวส์ของคุณประชา เหตระกูลเข้าไปด้วย แล้วแสดงความเกลียดชังนายกฯทักษิณ ทุกแห่งหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสดงความเกลียดชังผ่านไปทางคุณพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนเหล่านี้ไม่เคยเป็น ผมจะได้เล่าให้ฟัง 
เพราะฉะนั้นในประเด็นต้นตรงนี้เนี่ย คุณสนธิเองก็มีภาวะแห่งความสนใจอยู่ช่วงหนึ่ง ก็ช่วงเดียวกับที่ออกทีวีแล้วบอกว่า คุณทักษิณเป็นนายกฯที่ดีที่สุดในโลก (เสียงตบมือ) ช่วงเดียวกัน ช่วงเดียวกันกับที่บอกว่ารักคุณทักษิณเหมือนพ่อเลย เคยพูดแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เนี่ย ที่ต้องไปบวชก็คงเพราะต้องการที่จะล้างบาปที่เนรคุณพ่อ (เสียงตบมือ) เจ้าตัวพูดไว้เอง ผมไม่ได้พูด เพื่อนก็พบกันอย่างเพื่อน อยากจะเกิดเป็นลูกขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน ผมไม่ทราบ ก็รักกันขนาดไหนยอมตัวเป็นลูกเลย แต่เคยพูดอย่างนี้ก็ต้องนำมาอ้างกัน แต่ว่าหลังจากที่ความต้องการไม่ได้รับการตอบสนองเนี่ย เสียงในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนจากความชอบและชื่นชมนายกฯที่ชื่อทักษิณ กลายเป็นการสร้างบรรยากาศใหม่ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง นั่นกà¹
‡à¸„ือทำให้คนสงสัยว่าความเก่งของคุณทักษิณเนี่ย เป็นไปเพราะวัตถุประสงค์ที่ซ่อนเร้นหรือเปล่า เพราะตอนนั้นคุณสนธิ ลิ้มทองกุลรู้ดีว่า การจะบอกว่าคุณสนธิ อ๊ะโทษ การจะบอกว่าคุณทักษิณไม่เก่งเนี่ย มันช้าเกิดไปแล้ว เพราะว่าคุณทักษิณได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายปี ว่าสามารถทำงานได้ ผมต้องบอกพี่น้องอย่างนี้นะครับ ไม่ใช่เพราะผมทำงานกับคุณทักษิณมาก่อน แล้วผมมานั่งสรรเสริญ ผมเคยพูดในหลายที่เมื่อวานก็พูดในรายการของ IPTV ว่าผมไม่เคยเห็นคุณทักษิณเป็นเทวดาเลย แต่นั่นผมไม่ต้องการ ไม่เคยต้องการให้เทวดามาปกครองผมถึงขนาด ผมอยากจะให้ปุถุชนอย่างผมเนี่ย ซึ่งมีประสบการณ์อย่างคุณทักษิณมาปกครองผม ผมต้องการให้คนที่เคยล้มแล้วเป็นแผลหัวแตก ผมเคย ผมอยากให้คนที่เคยทำธุรกิจแล้วเจ๊งอย่างคุณทักษิณน่ะ แล้วรู้วิธีว่าจะฟื้นตัวยังไง สู้ชีวิต
ยังไง ผมชอบคนที่ต่อสู้ทางความไม่มีมาสู่ความมี มาปกครองประเทศผม เพราะผมจะได้แน่ใจได้ว่า เขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมได้ ผมไม่ต้องการได้คนซึ่งสบายตลอดชีวิต อยู่ในระบบอุปถัมภ์ตลอดชีวิต แบ่งกันอยู่ไม่กี่นามสกุล มาปกครองผม ผมไม่สนใจว่าจะเป็นนามสกุลอะไร ไม่ว่าจะเป็นปันยารชุน จะเป็นบุนนาค ผมไม่สนใจทั้งนั้น ผมไม่เอา ประเทศนี้ไพร่มีมากกว่า ผมอยากได้ไพร่ปกครอง เพราะฉะนั้นเนี่ยในเจตนาของผม ก็คือว่า ผมก็เห็นคุณทักษิณเป็นคนธรรมดาที่ใช้ได้ ไม่ใช่ดีเลิศวิเศษ ไม่ใช่ขาดข้องพร่องไม่ได้ เป็นคนมีข้อบกพร่องเหมือนคนทั่วไป แต่ข้อบกพร่องนั้นเป็นวิสัยธรรมดาปุถุชนธรรมดาที่พวกเรายอมรับได้ เป็นคนที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ไม่ใช่อรหันต์ ไม่ใช่พรหม มีอารมณ์ดุเดือด บางทีปากเร็วกว่าความคิด แต่นั่นก็คือคน เหมือนกับพี่น้องของเราบางคนที่เ
ราไม่ได้ถูกใจ ไม่ได้ถูกหน้าเท่าไหร่ แต่ก็เป็นพี่น้องเรา ซึ่งเราเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น เอาล่ะ
เพราะฉะนั้นลัทธิชนชั้นนำเนี่ย โดยส่วนตัวผม ผมไม่ไปปลื้ม ผมปลื้มกับลัทธิคนธรรมดาสามัญ ที่รู้จักการพัฒนาตัวเอง ที่รู้จักการแบ่งปัน ที่รู้จักการล้มแล้วลุก ที่รู้จักการต่อสู้ เพราะฉะนั้นคุณสนธิ กับคุณทักษิณต้องมาแตกกัน ทั้งที่ความจริง 2 คนนี้มีพื้นฐานที่คล้ายกันมากนะครับ ต่อสู้ในชีวิตมาทั้งคู่ คุณสนธิดูมีชีวิตที่อัศจรรย์มาก ก่อนจะมาถึงจุดที่คุณสนธิอยู่แต่พอมาถึงแยก ตรงรัฐบาลทักษิณ ตัดสินใจเดินไปคนละทาง คุณทักษิณเดินไปหาถนนสายที่มีชื่อว่า “ประสิทธิภาพ” คุณสนธิเลี้ยวกลับไปถนนที่มีชื่อว่า “อุปถัมภ์” มันถนนคนละเส้นกัน ถ้าคุณเดินไปถนนอุปถัมภ์ แปลว่าคุณไม่ต้องเก่งก็ได้ ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร นั่นถนนสายอุปถัมภ์ ถ้าเกิดมันนามสกุลบ้านนอก ก็หาทางแต่งงานกับนามสกุลใหญ่ซะ แล้วปีนไปด้วยกัน ไม่ก็นอนกับเขาสักคืนนà
¸¶à¸‡ ร่วมเตียงกันจะได้ขึ้นไปกับเขา เป็นถนนสายเก่า ซึ่งทำให้เมืองไทยด้อยพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถนนสายประสิทธิภาพหมายความว่า ถ้าคุณทำงานหนักพอ คุณพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง คุณรู้จักที่จะพบคนคุณมีความเป็นคนสูง มีความละเอียดอ่อนรู้ว่าคนเขารู้สึกยังไง ปรับตัวได้ แต่ไม่ปรับจุดยืนนะครับ ปรับเฉพาะตัวไม่ปรับจุดยืน คุณสมบัติเหล่านี้เพียงพอที่จะเดินถนนสายประสิทธิภาพ แต่คุณทักษิณกับคุณสนธิเนี่ยเดินแยกกัน ณ จุดนั้นเอง เผอิญผมโชคดี ผมนั้นเด็กกว่าทั้ง 2 ท่านมาก แต่อยู่ตรงที่เกิดเหตุด้วย เลยนั่งมองหน้าปากหวอ อ้าวเขาแยกกันเดินไปแล้ว คนที่ควรจะไปด้วยกัน เพราะจริง ๆแล้วเนี่ย ผมอยากให้คุณสนธิเนี่ย โดยส่วนตัวผมเนี่ย รับผิดชอบงานทางด้านการขยายเครือข่ายของสื่อมวลชนไทยในต่างประเทศ คุณสนธิจะเป็น 1 ในคนที่ทำได้ดีที่สุดคนห
นึ่ง แต่มาวันนี้มันสายเกินไปแล้ว เพราะว่าผมยังศรัทธาในความเก่งของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ผมไม่มีความไว้วางใจในความเป็นมนุษย์ของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลแล้ว (เสียงตบมือ) 
ถ้าคุณสนธิ มารับหน้าที่อะไรผมคงนอนไม่หลับ นั่งเช็ด ...... (ฟังไม่ชัด) เหมือนตอนนี้ เพราะว่าไม่มั่นใจว่าแกจะทำอะไร คนฉลาดที่ฉ้อฉลเนี่ย ผมขออยู่กับคนโง่ที่ซื่อดีกว่า เพราะยังมีโอกาสพัฒนาได้แล้วเชื่อใจกันได้บ้างสักวันหนึ่ง (เสียงตบมือ) แต่คนฉลาดแล้วฉ้อฉล น่ะจับมันไม่ทัน เราทันในวันนี้หนีไปโน่นแล้ว เราไปดู มันไปโน่นแล้ว นั่นคือคุณสนธิ เพราะฉะนั้นอย่าได้เข้าใจผิดนะครับ ผมไม่เคยดูแคลนความเก่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุลเลยนะ แต่ผมไม่ไว้ใจในตัวเขา ในแง่ความคิด ในแง่ของจิตใจเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้เนี่ยก็ไปบวช จะเป็นพระหรือไม่ยังไม่ทราบ ก็ขอว่าอย่าไปปลุกม็อบพระขึ้นก็แล้วกัน (เสียงตบมือ) เพราะว่าการทำสงฆ์ให้แตกแยกเนี่ย ถือเป็น “อนันต์จริยกรรม” คือเป็นกรรมอนันต์ เหมือนกับที่พระเทวทัตเคยคิดจะตีพระเศียรของสมเด็จพระสัมมà
¸²à¸ªà¸±à¸¡à¸žà¸¸à¸—ธเจ้า ไปดักเลย เอาไม้หน้าสามไปคอยดักตีพระพุทธเจ้า เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าเสด็จพระราชดำเนินมา ใกล้จะถึงไม่กี่ก้าวแล้ว ธรณีแยกออกสูบลงไปเลย เป็นจุดเริ่มต้นของอนันต์จริยกรรม คือกรรมอันแสนหนัก ซึ่งประกอบด้วยการทำร้ายพ่อแม่ บุพการี การทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต คือห้อเลือด ไม่ต้องถึงกับเจ็บปวดเลย แค่ห้อเลือดก็ถือว่าเป็นอนันต์จริยกรรม แล้วก็การทำให้สงฆ์แตกแยก การทำให้สงฆ์แตกแยกกันเนี่ยร้ายแรง เอ้าเราพูดเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องนี้ซะเลย 
เอาว่าวันนี้บรรยายไม่ค่อยเป็นระบบระเบียบนะครับ นึกเรื่องไหนก็ไปเรื่องนั้น เรียกว่าเป็นการบรรยายแบบเข้าซอย มาแบบเห็นซอยไหนเข้าไปเลย แล้วก็บางทีหาทางออกไม่ได้ พูดเรื่องสงฆ์แตกแยกเนี่ยก็เพราะว่าคุณสนธิเนี่ย เป็นคนให้ท้ายหลวงตามหาบัว (เสียงโห่) ให้เกลียดรัฐบาลทักษิณ ทั้งที่เดิมนี่ก็รักกันปานจะกลืนกิน ผมเนี่ย ไปตรวจราชการ ไม่ได้ไปตรวจ ผมตามไป ท่านนายกฯไปตรวจราชการ แบบค่ำไหนนอนนั่น ที่เรียกว่าทัวร์นกขมิ้น ผมไปด้วย ตอนแรกสุดยอมรับกับพี่น้องจริง ๆ อุตส่าห์เป็นโฆษกรัฐบาลนึกว่าจะได้นอนโรงแรมสบาย ไม่ต้องนอนเต้นท์ซะอีก ถ้างั้นก็เวรกรรมตอนเป็นสื่อนอนสบายกว่านี้อีก พอเป็นนึกว่าจะนอนโรงแรมดีขึ้น ไปนอนเต้นท์เลยทีนี้ เพราะท่านนอนเต้นท์แล้วเราจะไปนอนโรงแรมยังไง เพราะฉะนั้นก็นอนเต้นท์ไปกับท่านด้วย นอนวัดบ้าง อะไà¸
£à¸šà¹‰à¸²à¸‡ เพราะอะไรครับ เพราะนายกฯทักษิณเนี่ย ท่านเป็นคนที่ผ่านมาทุกอย่างแล้ว ท่านบอกผม ท่านบอกว่าไปนอนโรงแรมคืนละ 4 แสน 8 มันนอนเท่ากับคืนละ 800 บาท ท่านเคยบอกผม (เสียงตบมือ) ใช้ที่เท่ากัน พยายามจะใช้ส้วมบ่อยขึ้นมันก็ทำไม่ได้ ใช้ได้แค่นั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย เมื่อผ่านโรงแรม 4 แสนมาแล้ว เต้นท์ก็เท่ากัน ท่านก็เลยไปทัวร์นกขมิ้น แล้วเรานึกในใจว่าเราไม่เคยนอน 4 แสน อยากจะลองนอน 4 แสนก่อน เดาว่ากระดากเกินไปเพราะผมเป็นลูกน้อง อย่างการไปทัวร์นกขมิ้นเนี่ย ท่านก็ยังไปที่วัดของหลวงตามหาบัว ก็คือวัดป่าบ้านตาด ที่จังหวัดอุดรธานี หลวงตาเป็นพระที่ดีนะครับ แต่หลวงตาหูเบา (เสียงหัวเราะ..ตบมือ) หลวงตาเป็นพระที่ดี อย่าไปว่าท่านเลย ท่านเป็นพระผู้ใหญ่สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้เขียนประวัติหลวงปู่มั่นเอาไว้อย่างที่เราได้อ่านกันจนถึงท
ุกวันนี้เนี่ย หลวงตามหาบัวเขียนทั้งนั้น เพราะเป็นพระเลขาหลวงปู่มั่น หลวงตาเป็นเลขาหลวงปู่มั่น ภูมิทัตโต ก็โตมาสายวิปัสนา .....(ฟังไม่ชัด) คือเป็นสายที่เรียกว่าเป็นอรัญญวาสี คืออยู่ในป่า ไม่ได้อยู่ในเมืองที่เรียกว่าคามวาสี หลวงตาก็เจริญธรรม แล้วก็มีญาติโยมไปขึ้นกันมาก ญาติโยมนั้น ก็เลยกลายเป็น Network ที่ต่อมาคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้อย่างสบายใจ เช่นท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย แม้กระทั่งพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีความเคารพในหลวงตามหาบัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯก็เสด็จ โดยเฉพาะเวลาที่หลวงตามากรุงเทพฯ ก็เสด็จไป โดยเฉพาะวันที่หลวงตาทำบุญ จำได้มั๊ยครับ ที่......... (ฟังไม่ชัด) จะใช้ตอนนั้นเป็นที่ของหลวงตา เป็นระยะที่หลวงตามีชื่อเสียงที่สุด ว่าเป็นพระพิเศษ ไม่เหมือนพระทั่วไป 
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีก็เสด็จที่วัดป่าบ้านตาด ทั้งหมดนั้นทำให้หลวงตาเองก็อยู่ในสถานะพิเศษ ปรากฏว่าผู้ช่วยของหลวงตาที่มีชื่อว่า “ทองก้อน” ซึ่งบัดนี้แตกกันไปแล้วเนี่ย ทองก้อนเนี่ยเป็นคนที่ให้ความคิดกับหลวงตาว่า หลวงตามีอาวุโสในทางพระ คือเรียกว่าพรรษา สูงกว่าทุกองค์ที่อยู่ในพระราชาคณะด้วยกัน ผมไม่ทราบว่าพูดอย่างไรล่ะ แต่ดูเหมือนกับว่า ต่อมาความต้องการจะเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ก็เกิดขึ้นมา (เสียงโห่) แทนที่จะไปตามสมณศักดิ์ทั่วไป ก็คิดจะขึ้นทางด่วนทีนี้ (เสียงหัวเราะ) เรื่องการลัดขึ้นนะครับ เคยมีคนใช้คำนี้ไว้แล้ว คนแรกที่ใช้แต่ใช้ในทางที่ดีก็คือ พระพยอมกัลยาโณ วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระพิศาล ธรรมพาที รู้สึกตอนนี้จะเลื่อนสมณะศักดิ์แล้ว ผมยังจำได้ท่าà¸
™à¹€à¸¥à¹ˆà¸²à¹ƒà¸«à¹‰à¸œà¸¡à¸Ÿà¸±à¸‡ พระพยอมนี่ท่านเป็นพระครูธรรมดา แต่พระเจ้าอยู่หัวฯเนี่ย โปรดเกล้าฯให้เป็นท่านเจ้าคุณ คือเป็นพระพิศาลธรรมวาที เรียกว่าเป็นเจ้าคุณที่พิศาลธรรมวาที เรียกว่า “เจ้าคุณพะยอม” จนติดปาก เคยเล่าให้ผมฟังบอกว่า แหมไปอยู่วัดบ้านอย่างนี้ ปรู๊ดปร๊าดรวดเร็ว วันที่เจ้าคุณพยอมได้รับพระราชทานพัดยศพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นระยะ ๆ เรียกว่าทรงมีพระราชปฏิสันธานกับพระแต่ละองค์ ๆ พอมาถึงพระพยอมท่านเป็นนักพูด ท่านเป็นผู้มีปฎิภาณในการพูด ท่านก็ถวายพระพรบอกว่า มหาบพิตร แต่งตั้งอาตมาอย่างนี้เนี่ย มีคนเขาบอกว่าเหมือนขึ้นลิฟต์ (เสียงหัวเราะ) ก็กราบทูลอย่างนั้น พระเจ้าอยู่หัวฯก็รับสั่งสวนทันทีบอก ก็ให้ขึ้นลิฟต์ไปทำงานจะกลัวอะไร (เสียงตบมือ) เพราะฉะนั้นคำว่าขึ้นลิฟต์เนี่ย มันก็มีอยู่ในสารบบขึ้นมา ก็คือà
¸à¸²à¸£à¸‚้ามทางไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมไม่รู้ว่าหลวงตาท่านคิดเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าทองก้อนคิด พี่น้องทราบมั๊ยครับว่า วัดในเมืองไทยเนี่ย ซึ่งมีจำนวนมากหลายหมื่นวัด ถ้านำเอาที่หรือว่าที่เรียกว่าธรณีสงฆ์และโบราณวัตถุต่าง ๆ ศาสนวัตถุต่าง ๆ มารวมกันทั่วทั้งประเทศ กิจการคณะสงฆ์เนี่ย จะเป็นกิจการที่มีทรัพย์สินประมาณ 4 แสนล้านบาท (เสียงโอ้โห) พี่น้องเคยทราบเรื่องนี้มั๊ยครับ และพี่น้องนึกภาพต่อไปมั๊ยครับว่าทำไมคนอยากเป็นใหญ่ในวงการ
Imageเพราะฉะนั้นเนี่ย ในหนังเรื่อง The god father เนี่ย Don Corleone ผู้เคยเขียนเบื้องหลังโชคมหาศาลย่อมมีอาชญากรรม เพียงแต่ว่าเราเห็นหรือไม่เท่านั้น แล้ววันนี้ก็ดีเกิดเหตุกันอย่างนี้จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร ไผเป็นไผ เพราะเมื่อก่อนนี้ปิดกันเงียบเชียว เดี๋ยวนี้ก็แข่งกันเปิดโปงกันเอง (เสียงหัวเราะ) อย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ กับประสงค์ สุ่นศิริ นัดกันที่ทำท่าไปด้วยกัน ด้วยซ้ำไป ตอนนี้เจอหน้าเป็นไม่ได้เป็นงับหัวกัน (เสียงหัวเราะ) มันเรื่องอะไร เราก็เลยขอบคุณคุณสุรยุทธ์ จุลานนท์ ถ้าเจอหน้าต้องขอบคุณบอกว่า ขอบพระคุณท่านนายกฯครับ ช่วยยืนยันสัจธรรมว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร (เสียงตบมือ) เห็นเลย สิ่งเหล่านี้มันจะค่อย ๆ เผยออกมาเรื่อยใช่มั๊ยครับ เพราะฉะนั้นให้พี่น้องนั่งสบาย ๆ ให้เขาเปิดโปงให้ดู ไม่ต้องไปดูตับไตไส้พุงถึงโรงพยาบาล เขาเอามาให้à
¸—ี่บ้าน ให้ดูทีละคน เราก็ดูเอาเองว่าไส้ใครมันมากกว่าใคร ประเด็นก็คือเราไม่ได้พูดถึงคนที่ดีกว่ากัน ผมไม่ได้พูดถึงว่า ฝ่ายที่ผมอยากให้ท่านสนับสนุนเนี่ย ดีที่สุด ตอนรัฐบาลที่เราเป็นเนี่ย รัฐมนตรีหลายคนก็โหลยโท่ย แต่วันนั้นมันพูดไม่ได้อย่างที่ผมบอก แต่วันนี้มันพูดกันได้แล้วเพราะตอนนี้ก็บินไปจับตรงนั้น ตรงนี้กัน เราจะได้ประชาสัมพันธ์ตามหลังไป เพื่อจะได้เป็นประวัติชีวิต ว่าใครทำอะไรกันบ้าง แต่ในอีกฝ่ายหนึ่งเนี่ย มีปัญหาที่ใหญ่กว่าสงครามก็คือ ไม่มีความศรัทธาในประชาธิปไตย 
เพราะฉะนั้นเนี่ย หลักการผมชัดเจนครับพี่น้องครับ ผมเชื่อว่าวันนี้พี่น้องมาก็สนับสนุนน่ะนะ แต่ว่าไม่ต้องห่วงเลย แล้วกกต. ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่ได้มาหาเสียงให้พรรคผมเลย เพราะถ้าหากว่าพวกท่านไม่ยึดอำนาจเนี่ย พรรคผมได้อยู่แล้ว (เสียงตบมือ) ผมพูดอย่างนี้ไม่ใช่เพราะโม้ มันสำรวจกันอยู่ตลอด ประชาชนเขายังเอา เขาก็รู้ว่ามีข้อเสีย เขาก็รู้ว่ายังไม่ได้ Perfect แต่เขาก็บอกเอาไว้ก่อน มันเริ่มต้นใช้ได้ คือเริ่มจะเป็นต้นกล้าขึ้นมาละ แต่พออีกฝ่ายนึงเอาเท้าเข้ามาเขี่ยให้มันล้ม เอามาถีบให้มันล้ม มันก็ต้องมาสู้กัน เท่านั้นเอง มันไม่มีอะไรที่มัน มันลึกลับซับซ้อน มันก็คือประชาธิปไตยระยะตั้งไข่ถูกผลักให้ล้มเท่านั้นเอง แต่ปัญหาก็คือว่าตอนนี้คนไทยทั่วประเทศเขาไม่ยอม คนอย่างผมเองซึ่งเดิมทีเป็นอาจารย์สอนหนังสือมหาวิทยาลัย ท
ำงานสื่อมวลชน ถ้าผมนั่งทำหน้าเหมือนเขาก็สบายดี คือเมืองไทยเนี่ย ถ้าเราชำนาญวิชาสอพลอเนี่ยนะครับ มันไม่ต้องเก่งอย่างอื่น (เสียงตบมือ) ไม่ต้องเรียน แต่ถ้าหากจะเรียน ถ้าหากจะมีอาชีพของตัวเอง ก็มักจะไม่ค่อยอยากเก่งสอพลอ อันนี้คือคนในโลกมันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เป็นส่วนใหญ่ คนกลุ่มหนึ่งคือไม่มีความสามารถ ก็เลยต้องใช้วิชามาร เพื่อเอาเปรียบคนอื่น กับคนกลุ่มที่ 2 คือเป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีความเป็นนักสู้มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี ก็จะเป็นที่จะไม่ชอบวิชามาร แล้วไร้เดียงสาต่อวิชามาร คน 2 กลุ่มนี้เวลาอยู่ด้วยกันมันเกิดปัญหา เพราะคนดีจะแพ้คนหน้าด้าน (เสียงตบมือ) เกือบเสมอไป เพราะคนดีเนี่ยมันหน้าด้านไม่เป็น แต่คนหน้าด้านเนี่ยมันดีไม่เป็น (เสียงหัวเราะ) เนี่ยฮะ ที่มันอยู่กันไม่ได้แล้วมันทำลายกันเพราะอย่างนี้ มันเหมือนกับ
คนและเชื้อโรคน่ะ คนหน้าด้านกับคนดีเหมือนคนกับเชื้อโรค คนเนี่ยก็อยากจะมีชีวิตที่แข็งแรง แต่เชื้อโรคมันก็อยากจะแข็งแรงของมัน มันไม่ได้ตั้งใจจะให้เราป่วยหรือตายนะครับ มันตั้งใจจะขยายลูกหลานมันเท่านั้นเอง แต่มันดันมาขยายในร่างกายเรา พอมันขยายเสร็จเราป่วย หรือไม่ก็ตายส่งไปเลย เพราะฉะนั้นเรากับเชื้อโรคถึงอยู่กันไม่ได้ แต่ว่านั่นแหละครับ หลักธรรมชาติตรงนี้ ท่านหลายท่านเป็นแพทย์เนี่ย คงจะพูดได้ดีกว่าผม หลักการเนี่ยของการอยู่ร่วมกันระหว่างร่างกายคน กับเชื้อโรค ไม่ใช่การทำให้เชื้อโรคมันหมดไปนะครับ เพราะเชื้อโรคมันไม่มีวันหมดไป เราอยู่ในห้องนี้ก็มีเชื้อโรคเยอะแยะ ในตัวเราก็มีเชื้อโรคไม่รู้กี่ร้อย กี่พันชนิด แต่มันอยู่ในสภาพที่เรียกว่า Normal คือมันเป็นปกติ มันไม่เอาเปรียบกัน มันไม่เบียดเบียนกัน มันก็พออยู่
ได้ เวลาเราเป็นหวัดก็แปลว่าร่างกายเสียสมดุล เช่นเย็นไปหรือร้อนไป หรือว่าเหนื่อยไป เชื้อโรคมันก็ชนะชั่วคราว เราก็เอาชนะมันกลับ แต่ไม่ได้แปลว่ามันตายนะครับ มันก็ยังรอเวลาอยู่ อ่อนแอเมื่อไหร่มันก็กลับมาอีก
เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยกับเผด็จการ เหมือนร่างกายคนกับเชื้อโรค ต้องดูกันอีก มันไม่มีวันที่จะให้เผด็จการหมดไปจากโลกนี้ได้เพราะอะไรครับ เพราะเผด็จการมันคือความคิดของคน มันไม่ใช่พฤติกรรมเผด็จการ ความคิด ความคิดว่าตัวเหนือกว่าใคร ความคิดว่าเวลาออกกฎหมายอะไรมาใช้บังคับคนอื่นไม่ได้ใช้กับตัวเอง ความคิดแบบนี้ท่านอาจจะเรียกว่าศักดินา อาจจะเรียกว่า “อมาตยาธิปไตย” อาจจะเรียกว่า “อภิสิทธิ์ชน” อาจจะเรียกว่า “ลัทธิชนชั้นนำ” ที่เรียกว่า ....... end leash?? แต่ปัญหาก็คือความคิดอย่างนี้มันมีลักษณะร่วมกันก็คือ มันไม่เชื่อว่าคนเนี่ยเท่าเทียมกัน ประเทศนี้เขาเชื่อว่า All men are crated equal แต่เขาเริ่มจากหลักตรงนั้น แล้วมันก็ไม่ Ego หรอกครับ แต่มันต่อสู้เพราะความ Ego กันอยู่ตลอด ใช้โรงศาลบ้าง ใช้กฎหมายบ้าง บางรัฐใช้การประท้วง ใช้การจลาจลบ้าง LA ก็ผ่านà
¸¡à¸²à¸«à¸¥à¸²à¸¢à¸„รั้ง กว่า …. Mochie?? จะกลับคืนมาใช่มั๊ยครับ ไม่ได้อยู่กันราบรื่นเสมอไป ป่วยบ่อย ๆ ไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือเรารักษาอาการป่วยกันด้วยวิธีไหนล่ะ รักษาด้วยการยึดอำนาจ อย่างในเมืองไทย เมื่อประชาธิปไตยทำท่าว่าจะสู้กับเผด็จการไม่ได้ เหมือนกับเชื้อโรคเอาชนะร่างกายคน แทนที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น กลับกลายเป็นชวนคนอื่นมาป่วยด้วยกัน ถ้าในห้องนี้ป่วยเท่ากันหมด คือเป็นหวัดเท่ากันหมด จะไม่มีคนเป็นหวัดเลย เพราะว่าเป็นเท่ากันหมด แต่ถ้าหากคน 99 เปอร์เซ็นต์ ปกติดี แล้วมี 1 เปอร์เซ็นต์เป็นหวัด เราจะได้รู้ว่าเราจะรักษาคนที่เป็นหวัด 1 เปอร์เซ็นต์นั้นอย่างไร 
เพราะฉะนั้นสิ่งที่กำลังสู้ในเมืองไทยตอนนี้คือการชิงหลักตรงนี้ ว่าส่วนใหญ่ของประเทศเป็นประชาธิปไตย หรือส่วนใหญ่เป็นเผด็จการ กับลูกน้องเผด็จการ นี่คือจุดที่ผมประกาศตัวชัดเจน ผมเป็นโรคดีกับเผด็จการไม่ได้ ตั้งแต่เขายึดอำนาจ คมช. มาเนี่ย เขามาเชิญ ผมได้รับการเชื้อเชิญไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้คุมกรมประชาสัมพันธ์และ TiTV ให้คุมเครือข่ายของสื่อสารมวลชนระหว่างประเทศที่เราจะร่วมกันสร้างกับจีน กลุ่มชินหัว ก็ต้องปฏิเสธไปเพราะว่าผมยอมรับหลักการข้างต้นไม่ได้ คือหลักการขั้นต้นที่ว่าผมต้องยอมรับและกล้ำกลืนเสียก่อนว่าคนไทยไม่เท่ากัน แล้วผมจึงจะได้บำเหน็จรางวัลอันนั้น ถ้างั้นไม่เป็นไร ไม่ต้อง ชีวิตมีความสุขดีอยู่แล้ว และที่สำคัญก็คือมันได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าคุณทักษิณกำลังทำอะไร และอีกฝ่ายกำลังทà¸
³à¸­à¸°à¹„ร เดี๋ยวกลับมาประเด็นนี่เรียกว่าคุยแบบเข้าซอยลึกเข้าไปอีก ตอนนี้กำลังเลี้ยวรถกลับนะฮะ ถึงถนนใหญ่อีกแล้ว 
เราก็รู้ว่าสถานการณ์ของพันธมิตรฯ มันจะนำมาซึ่งการหักกันทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง มันเริ่มมีสัญญาณที่แปลกและแปร่ง ออกมาเรื่อย ๆ คุณสนธิ เริ่มต้นก่อตั้งขบวนการนี้ด้วยการเรียกว่า เป็นกระบวนการเรารักในหลวง ท่านจำได้มั๊ยครับ ใส่เสื้อเหลืองเป็นยุคแรก ๆ คือเสื้อเหลืองเนี่ย เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณโปรโมทขึ้น แล้วทำให้คนได้แสดงความจงรักภักดีอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ อันนี้ฝีมือรัฐบาลทักษิณที่คนเขาว่าไม่จงรักภักดีเนี่ยครับ เดี๋ยว ๆ เรื่องพระเจ้าอยู่หัวกับนายกฯทักษิณ จะพูดอีกทีนะครับ ก็อยากจะทบทวนความจำกันเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เอาเรื่องพวกนี้ก่อน คุณสนธิเนี่ย สร้างเป็นเหมือนกับเป็นพลังเสื้อเหลืองขึ้นมา พูดง่าย ๆ คือยุให้วังกับรัฐบาลตีกัน เพราะเห็นแล้วว่าไม่มีทางอื่นจะโค่นทั
กษิณได้ ยกเว้นจะยุว่าให้ตีกับในวัง หรือว่าให้ในวังเนี่ยไม่ชอบ เพราะในวังเนี่ย มีคนหลายประเภท พระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูงเรายกไว้ แต่ว่าบุคคลที่เชื่อมระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์กับคนทั่วไปข้างล่าง เป็นคนหลายหลากความคิดและจิตใจ หลายหลากผลประโยชน์ และที่สำคัญก็คือว่า มีลักษณะเหมือนขอดทั่ว ๆ ไป ท่านเคยดูหนังจีนมั๊ยครับ คนที่เป็นขุนนางเนี่ยในหนังจีน เขามีความสามารถอะไรก็ไม่รู้หล่ะ แต่สิ่งที่ต้องเป็นทักษะที่ใหญ่หลวงที่สุด คือต้องมีความสามารถในการตอแหล (เสียงหัวเราะ ตบมือ) คำว่า ตอแหลนั้นไม่ได้เป็นคำด่า แต่เป็นคำไทยแท้ซึ่งแปลว่าความจริงส่วนหนึ่ง และความเท็จส่วนหนึ่งแล้วก็บิดเบือน มีความสามารถในการจับจริงมานิดนึง ให้คนพอเชื่อแล้วผสมกับความเท็จเป็นส่วนใหญ่แล้วบิดเบือน 
ผมเคยยกตัวอย่างเอาไว้ที่สนามหลวงว่า ถ้าเทียบกับชีวิตเราก็เหมือนกับคนชอบให้ผัวเมียเขาแตกกัน มีความสุข เพราะเห็นเขาแตกกันแล้วทำให้ชีวิตสมรสเราดีขึ้น (เสียงหัวเราะ) ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลยเนี่ยนะฮะ บ้านเราก็แตกกันต่อไปเหมือนเดิม ประเด็นก็คือว่าอยากให้เขาแตกกันก็เลยคาบข่าวมาบอกเมียเขา บอกว่าเนี่ยวันนี้เห็นผัวเธอไปยืนคุยกับผู้หญิงที่ไหนไม่ทราบ ยืนซะชิดเชียว ข้อเท็จจริงก็คือสามีเจอผู้หญิงคนนึงเดินมาทักจริง ๆ แต่ผู้ชายคนนั้นนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ยืนคุยกันที่ซุปเปอร์มาร์ท คุยที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือคุยกัน พยายามจะทบทวนความจำว่า อ๋อ ครับ ๆ ๆ เพราะเขาก็ไม่อยากจะบอกว่าจำไม่ได้ แต่ระหว่างที่คุยกับผู้หญิงคนที่อยากให้เขาแตกกันเนี่ย บ่างช่างยุเนี่ย ยืนมองอยู่แล้วอยากให้เขาแตก เพราะฉะนั้นเราบอก อู๋ย ยืนซ
ะใกล้เชียว ไอ้ที่ยืนใกล้เนี่ยบวกเข้าไป ของจริงคือเจอกัน ยืนใกล้เนี่ยบวกเข้าไป แล้วบิดสุดท้ายบอกว่า ชั้นก็ไม่ได้พูดอะไรนะ ชั้นไม่อยากจะพูดอะไรไม่ดีกับคนอื่น แต่เธอคิดเอาเองก็แล้วกัน เมียนั่งทึ้งหัวตัวเองอยู่บ้านทั้งคืนเลย นี่คือตัวอย่างของตอแหล ตอแหลไม่ใช่โกหกนะครับ ตอแหลเป็นการเอาความจริงมาปนกับความเท็จแล้วบิดเบือน นั่นคือสิ่งที่นายกฯทักษิณเจอ หลายอย่างมันมีความจริงผสมอยู่ แต่มันมีความเท็จผสมอยู่มาก แล้วก็ถ้าดูหนังจีนจะรู้ว่าที่ไหนเนี่ย ที่มีความชำนาญในการใช้ศิลปะของการตอแหลมากที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าเทียบกับภาษาอังกฤษ ผมคิดว่า แต่ฟังแล้วมันไม่สะเทือนใจเท่า ตอแหล ถ้าจะเล่าให้ฝรั่งฟังก็ต้องบอกว่าเป็น Distortion information เป็น half truth ที่ใช้ในการทำลายรัฐบาลทักษิณ Definition ที่สำคัญที่สุดคือ half truth คือ Distortion แต่ตอนนั้นเนี่ย เรà
¸²à¹„ม่รู้ ผมเองก็พลาดอย่างฉกาจ ฉกรรจ์ ผมเป็นโฆษกแท้ ๆ แต่ว่าผมไม่สามารถที่จะปกป้องรัฐบาลได้เต็มที่ ไม่ต้องอ้างใคร ต้องโทษตัวเอง แล้วนี่คือความเห็น off the life time?? 
เพราะฉะนั้นเนี่ย เราจะต้องเอาบทเรียนจากรัฐบาลทักษิณกันใหม่ กับให้กับรัฐบาลชุดใหม่ นายกฯ จะเป็นทักษิณหรือไม่ แล้วแต่ทักษิณ แต่จะต้องมีนายกฯ ที่เหมือนทักษิณอีก เพราะว่าสิ่งที่ผมต่อสู้ตอนนี้ ไม่ใช่เพื่อคุณทักษิณคนเดียวนะครับ เหมือนต่อสู้เพื่อทักษิณ และ The lives of Thaksin คือคนที่จะกล้าพูดว่าจะเปลี่ยนประเทศ โดยไม่ถูกตีกะบาลเสียก่อน (เสียงหัวเราะ) ไม่งั้นคนไทยก็จะเหมือนเดิม ตอนที่พี่น้องอยู่เนี่ย จำได้มั๊ยครับ ว่าใครอยากเป็นนายกฯไทยเนี่ย ให้บอกว่าไม่อยากเป็น ต้องทำเป็นถ่อมตัว ทำนุ่มนวลน่ารัก ต้วมเตี้ยม แล้วไปแอบทำลายคนอื่นไปพลาง เพื่อรอให้คนอื่นเป็น นายกฯไทยเป็นอย่างนั้นทู๊กคน (เสียงตบมือ) ถ้าอยากจะอยู่ให้นาน แล้วมีความหวังจะเป็นอีกก็เหมือนคุณชวนอีก ยังไม่ได้รับรายงาน (เสียงหัวเราะ) มันแปลว่าอะไรครับ ยังไม่ได้รับราย
งานเนี่ย มันแปลว่า ข้าราชการ ช่วยคิดแทนทีสิ ก็กฎหมายที่ทำให้คุณชวนเป็นนายกฯ กับกฎหมายที่ทำให้คุณทักษิณเป็นนายกฯเนี่ย กฎหมายฉบับเดียวกันน่ะ ทำไมคุณทักษิณทำอะไรได้มากกว่าคุณชวนล่ะ ก็เท่านั้นแหละ ไม่ได้เพิ่มอำนาจนายกฯเลย เพียงแต่รู้จักใช้เท่านั้น เอาล่ะเดี๋ยวค่อยกลับมาพูดถึงคุณ คุณยังไม่ได้รับรายงาน กันต่อทีหลัง
ประเด็นก็คือว่า คุณทักษิณเนี่ย ก็เป็นคนที่ผ่าเหล่า ผ่ากอมา ในฐานะผู้นำทางการเมือง เพราะอะไรครับ คุณทักษิณถึงไม่เหมือนคนอื่น ท่านก็วิเคราะห์ได้เพราะหลายคนในที่นี้เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็น Professional ประสบความสำเร็จ เพราะอะไร เพราะคุณทักษิณประสบความสำเร็จเร็วเกิดควร คุณทักษิณรวยเร็วเกินไป ในเวลาเพียง 10 กว่าปี คุณทักษิณมาจากเป็นหนี้ต้องแลกเช็คอ่ะ จนเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง ผลจากการรวยเร็วทำให้เกิดอะไรขึ้นครับ 1.ไม่มีเวลาสะสมทีมงาน คนจะขึ้นมาเป็นใหญ่ต้องมีทีมงานที่เก่ง แต่ถ้ารวยเร็วเกินไป หรือกิจการประสบความสำเร็จเร็วเกินไป ไอ้ที่มันยกของอยู่เมื่อวานนี้ วันนี้มันเป็น General Manager แล้ว (เสียงหัวเราะ) มันไม่มีคนอื่น มันยังไม่มีเวลาพอจะสะสมไพร่พล นี่คือจุดอ่อนอันหนึ่งรัฐบาลทักษิณ ซึ่งเราเห็นย้อนหลัง ตอนนั้นà¹
„ม่เห็นหรอกครับ เพราะนายกฯเก่งมาก นายกฯเก่งมากจนกระทั่งปิดบังจุดอ่อนและความไม่ได้ท่าของรัฐมนตรีหลายคนได้ นายกฯ เก่งต่อการ...... เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีก็ทำเป็นเก่งอยู่ด้วย แต่ความจริงรู้ว่าตัวไม่เก่ง เหมือนกับนายกฯ สร้างเรือ ไม่ใช่ Titanic นะฮะ เอาเรืออะไรดี เรือ Queen Elizabeth สร้างเรือ Queen Elizabeth ขึ้นมา เอาเรือ May Flower ก็ได้ นายกฯ ก็เก่งสร้างเรือแล้วเป็นกัปตันเรือ มีรัฐมนตรีขึ้นมาทำตัวเป็นรองกัปตัน และผู้ช่วยกัปตันเยอะ ที่ยังลอยหน้าอยู่ได้ตอนนั้นก็เพราะว่ากัปตันเก่งเหลือเกิน อะไรที่เป็นงานผู้ช่วยกัปตัน กัปตันทำแทนหมด เพราะฉะนั้นผู้ช่วยก็นั่งทำเป็นเก่งไปงั้นแหละ แต่พอถึงเวลาเรือจะจมรู้เลยว่าตัวเองเนี่ย เดินเรือไม่เป็น รีบกระโดดไปแย่งเรือบดไปก่อน ไม่ใช่เพราะว่าเขาเห็นแก่ตัวอย่างเดียว แต่เพราะเขารู้ว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น เขาเลยควà
¹‰à¸²à¹€à¸£à¸·à¸­à¸šà¸”ไปก่อน ซาร์เศรษฐกิจน่ะไปก่อนคนอื่นเลย คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไปก่อนคนอื่นเลย (เสียงตบมือ) คุณสุรเกียรติ เสถียรไทย ผมทำงานด้วย ไม่อยากจะวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาเลย แต่นี่มันบ้านเมืองใหญ่กว่า ความรู้สึกส่วนตัว คุณสุรเกียรติ อยู่ได้จนถึงนาทีสุดท้ายเพราะอะไร อยู่เพื่อจะกระซิบคุณทักษิณที่ New York ว่าอย่าไปสู้เลย รัฐประหารครั้งนี้เนี่ย สูงมาก ซึ่งเป็นผลให้คุณทักษิณตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะอยากจะเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง (เสียงตบมือ)ผมน่ะเสียใจมาก ถ้ารู้ว่ารับมืออยู่กับโจรเนี่ย เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปซะนานแล้ว ทางนี้จะได้กลายเป็นเถื่อนไปให้หมด (เสียงตบมือ) ทางนี้หมายถึง ... (ฟังไม่ชัด) ไม่ว่าจะฤาษีเรียกเต่า หรือเต่าควาย อะไรทั้งหลายน่ะ เถื่อนทั้งนั้น เถื่อนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย มันมีเหตุ
ผลที่ทำให้ต้องตัดสินในในยามคับขัน ผมเห็นใจท่านนายกฯ ตอนนั้นผมอยู่ที่กรุงเทพฯ นะครับ ท่านนายกฯ อยู่ New York ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะว่าเราเริ่มได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดีกัน 
ทีนี้มาตรงนี้ ในเมื่อเข้าซอยตรงนี้ ก็เล่าตรงนี้ว่า ทำไมไม่สู้ กำลังก็มี เตรียมไว้แล้วด้วย ก็ตอบสั้น ๆ เท่านั้นนะครับ แล้วขอตอบประโยคเดียว ใครถามก็จะร้องเพลงให้ฟังแทน ไม่ตอบเพิ่มว่า เหตุที่ไม่สู้ ก็เพราะว่า เราเตรียมกำลังไว้สู้กับคุณเปรมเท่านั้น (เสียงตบมือ) ถ้าเป็นเฉพาะคุณเปรมนะเหรอ จบเกมไปนานแล้ว! เพราะว่าดูหนังจีนเรื่องเดียวกันรู้ว่าจะจัดการกับนางพญาผมขาวยังไง (เสียงหัวเราะ ตบมือ) ดูเหมือนกันเรื่องนี้ รู้วิธี ครับ ขันทีก็ได้รู้ว่าเก็บไอ้ถ้วย ของสำคัญไว้ตรงไหน ขันทีนี่เขาต้องตัดของสำคัญแล้วเก็บใส่ถ้วยไว้ แล้วเวลาเปลี่ยนขันทีในจีนเนี่ย ต้องเอาอวัยวะเนี่ยมา แต่ใส่ภาชนะนะฮะ แล้วเอามาไว้บนหัวแล้วก็เดินออกไป ท่านต้องดูหนังเรื่อง The Last Emperor ที่ว่าด้วยที่ The Lord ปู้ยี่ หรือ ปูยี กษัตริย์องค์สุดท้ายของจีน ก่อนจะปฏิวัต
ิเป็นสาธารณะ ขันทีเดินเอา (เสียงขาดหาย) เดิน (เสียงขาดหาย) ผมตั้งใจจะไม่พูดภาษาที่มันชัดเจนเกินไป กรุณาอย่าเอาขึ้นภาพประกอบนะฮะ เขาทำอย่างนั้นแล้วเขาเดินออกไป ก็รู้วิธีจัดการ เพียงแต่ว่า เมืองไทยมันซับซ้อนกว่านั้น เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณทักษิณก็เลยบินจาก New York ไป London ถ้าจะว่าไปก็คือ ทำงานมากเกินไปด้วย ชั่วโมงงานเลยยาว ในขณะที่ช่วงเวลาแห่งการเอาใจสั้น นายกฯ เมืองไทยต้องทำงาน 2 ใน 3 แล้วก็ประจบอีก 1 ใน 3 จะไปได้ดี ผมได้สูตรนั้นแล้ว แต่ถ้าหากว่าประจบ 2 ใน 3 แล้วทำงาน 1 ใน 3 ก็อาจจะเป็นมหาบุรุษ (เสียงตบมือ) ไม่ใช่เป็นนายกฯเฉย ๆ (เสียงตบมือ) เมืองไทยเป็นแบบนี้ ก็ ๆ ๆ มันก็สนุกดีอ่ะครับ ถ้าเกิดมันไม่ใช่ประเทศเราอ่ะนะ แล้วถ้าเกิดดูประเทศอื่นเนี่ยผมจะเฮฮามาก เป็นเรื่องที่เฮ เล่ากันได้ ฮากันทุกที เมืองนี้ เผอิญมันเมืองเรา มันเลยน้ำตาไหล 
มันเลยเสียใจแทนบรรพบุรุษ เสียใจแทนอาจารย์ปรีดีย์ เสียใจแทนคู่ต่อสู้อีกหลายคน เสียใจแทนคนที่ตาย เมื่อ 14 ตุลาคม 16 แล้วคนที่ได้รับบาดแผลทางใจไปจนกระทั่งปัจจุบัน เสียใจแทน 6 ตุลาคม 19 และ พฤษภา มันเลยไม่ใช่เรื่องตลก เรามาคุยกันในหมู่ไทย เราก็คุยกันแบบเหมือนกับเฮฮา แต่ความจริงมันน้ำตาตกใน เท่านั้นแหละครับ เรื่องแบบนี้ เพราะฉะนั้นเล่ามาถึงตรงนี้ก็ต้องเล่าต่อว่า เมื่อเหตุการณ์มาถึงตรงนี้เนี่ย คุณทักษิณก็ตัดสินใจไม่สู้ แนวคิดเรื่องรัฐบาลพลัดถิ่นเนี่ย ท่านไม่ได้คิดหรอก พวกเราคิด ผมเองเนี่ยครับ ก็ประกาศเป็นที่นี่เป็นครั้งแรกซะเลย ให้รู้ว่า ผมเตรียมตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในฐานะที่ผมเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดูแลกระทรวงการต่างประเทศ พูดถึงกระทรวงการต่างประเทศนี่ก็เหมือนกัน ผมเคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ในกระทรวงการต่à¸
²à¸‡à¸›à¸£à¸°à¹€à¸—ศ แต่ผมมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าข้าราชการกระทรวงต่างประเทศนั้นเนี่ย จะต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยนะ เพราะฉะนั้นเนี่ย ผมฝากถึงท่านกงสุลใหญ่ด้วยว่า อย่ารับใช้เผด็จการจนเกินควร (เสียงตบมือ) 
ทราบว่าต้องทำตามคำสั่ง แต่การทำตามคำสั่งกับการรับใช้เป็นคนละคำกัน แยกแยะให้ดี Execute คำสั่งกับการ Serve เป็นคนละคำ เพราะฉะนั้นเนี่ยขอให้ Make distention เรื่องนี้นะครับ ต้องพูดภาษาอังกฤษเพราะว่า ท่านโตเมืองนอก (เสียงตบมือ) เอาหล่ะครับ เพราะฉะนั้นประเด็นก็คือว่า เราต่อสู้เพื่อหลักการในความถูกต้อง ผมเองเนี่ย กำลังต่อสู้ร่วมกับพี่น้องในเรื่องของโครงสร้างมันใหญ่กว่าเรื่องพรรค ประเทศไทยมันอยู่ต่อจาก 23 ธันวาคมนี้มีตั้งเยอะ ใครชนะหรือแพ้ตรงนี้มันไม่ได้ตายกันลงไปหรอกครับ พรรคที่ผมสังกัดเป็นฝ่ายค้านก็ได้ สนุกเสียอีกสิ จะได้เปิดอะไรเยอะแยะ ในกรอบของสภา ใครเป็นรัฐบาลหลัง 23 ธันวาคมนี้ ก็ซวยทุกคน (เสียงหัวเราะ ตบมือ) ซวยทุกคน ให้คุณบรรหารเป็นเถอะ (เสียงตบมือ) แต่ถ้าคุณบรรหารเป็นผมว่า น่าจะตั้งชูวิทย์ เป็นโฆษกรัฐบาล (เสียงหัวเราะ ตบมือ
) คุณบรรหารจะได้เพลิดเพลิน เจริญใจ นั่งกินข้าวอยู่ในร้าน ชูวิทย์มานั่งกินหน้าร้าน (เสียงหัวเราะ) นี่ก็แสบเสียจริงเชียว เกิดมา อย่างงี้เขาทำบาปอะไรกันมาในชาติปางก่อน ผมอยากรู้ เขาต้องทำอะไรคู่กันมานะ คือ ๆ มัน แสบเกินไป มานั่งกินต้มยำปลาไหลอยู่หน้าร้าน (เสียงหัวเราะ) มันน่าโมโหมั๊ยล่ะ ผมเป็นคุณบรรหาร ผมก็อยากจะลุกเตะปาก พอดีมันไม่ถึงอ่ะ (เสียงหัวเราะเป็นระยะ) พอดีชูวิทย์มันสูงกว่า คือให้ ๆ ๆ อย่างนี้เป็นรัฐบาลดีกว่า ผมว่าอย่างน้อยก็มีเรื่องเฮฮา เพราะยังไงประเทศตอนนี้มันก็เสียหายแล้วพี่น้อง คือผมไม่ได้อยากบอกให้ประเทศเสียหายต่อ แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ให้เละกันจนถึงที่สุดเลยดีกว่า เพื่อจะได้ล้างไปทีเดียวกัน เพราะถ้าอย่างนั้นเนี่ย มันจะกลายเป็นว่าเรารีบไปแก้ปัญหาแทนการรัฐประหาร สมมตินะ ไปแก้ปัญหาจนประเทศกลับà
¸„ืนมาได้ มันจะกลายเป็นประเทศกึ่งดิบ กึ่งดี คือตกลงไม่รู้ใครเป็นยังไงกันแน่ งง ไปหมด 
จริงแล้วเนี่ย ถ้าผมมีอำนาจกำหนดได้ อยากเป็นฝ่ายค้าน นี่ถามจริง ๆ พูดจริง ๆ ผมว่าเหมาะที่สุด แล้วก็อยากเป็นก็เป็น คุณอภิสิทธิ์ก็ได้ เอาเลย ลองดู คุณบรรหารเอาเล้ย คุณประชัย ขึ้นมาวันแรก เอา TPI ขึ้นแล้วลาออกได้เลย (เสียงหัวเราะ ตบมือ) จะได้หมดเรื่องไป ไม่งั้นมาตั้งวิทยุทวงอยู่เนี่ย นะฮะ ก็อยากได้คืนก็ให้แกไปเถอะปัดโธ่เอ๊ย จริง ๆ TPI เนี่ย ผมก็ไม่รู้นะครับ เจ้าของประเทศเขาลืมหรือยังไงว่า สมัยพล.อ.ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรีเนี่ย คุณชาติชายเป็นคนช่วยคุณประชัยเนี่ย ทำลายการผูกขาดของเครือซีเมนต์ไทย แล้วเครือซีเมนต์ไทยเนี่ยของใคร เอ๊ะ ลืมกันได้แฮะ แสดงว่าความแค้นเก่าที่คุณประชัยเนี่ยมาตีขนดหางของพญานาคราช ยังเต็มความสำคัญน้อยกว่ากลัวทักษิณน่ะ ถึงได้ต้องร่วมกันเพื่อไปตีคุณทักษิณ เป็นเมื่อก่อนนี้คุณประชัยตายก่อนไปแล้ว à¸
¡à¸²à¸—ำงั้นได้ไง ไม่มีใครจะขายปูนเมืองไทยได้ยกเว้นเครือซีเมนต์ไทย แต่คุณประชัยทำธุรกิจปูนซีเมนต์นะฮะ TPI น่ะ เพราะว่ามีการ Break Rank คือมีการไม่ถึงกับทำลายการผูกขาดแต่ว่า เพิ่มสัมปทานในช่วงที่พล.อ.ชาติชายเป็นนายกรัฐมนตรี ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ตอนนั้นหนุ่มกว่านี้เยอะ พูดง่าย ๆ ว่าคุณประชัยเนี่ย ประสบความสำเร็จเป็น Tycoon ทางด้านธุรกิจเนี่ย ในแนวเดียวกับคุณเจริญ ศิริวัฒนภักดีนั่นแหละ เพราะคุณเจริญ จู่ ๆ ก็ทำลายผูกขาดเหล้าได้ จำได้ไม๊คะ เพราะฉะนั้นแปลว่าในเมืองไทยเนี่ย ใครใหญ่ขนาดทำลายการผูกขาด แล้วแทรกตัวไปได้ก็จะกลายเป็น tycoon เมืองไทยมันอยู่กันมาอย่างนั้น แล้วก็รู้จักวิธีเอาใจกันหน่อย 
สมมติผมเป็นนักธุรกิจ ระดับหมื่นล้าน แสนล้านเนี่ย แล้วผมรู้ว่า เจ้าของบ้านเนี่ย เขาก็ยังไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ ผมก็ต้องหาทางเข้าถึงเจ้าของบ้าน จะเข้าถึงได้ยังไง มีคนสวน มีคนครัว มีคนรับใช้ มีแม่นม มีคนเชิดหนังตะลุง มีอะไร ไม่รู้มีใครบ้าง ผมเอาใจทุกคน ถ้าผมเป็นเจ้าของโรงแรม ผมก็จะออกบัตรให้ บอกว่าพี่เอาไปเลย นี่ ไปใช้ที่โรงแรมผม มูลค่า 1 ล้านบาทต่อ 1 ปี ให้ทุกคน ผมก็ต้องทำอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย มันอยู่ที่ว่าผมกล้าเล่นใหญ่มั๊ย เมืองไทยมันอยู่กันมาอย่างนั้น เอา เอาอย่างนี้ เอากลับมาที่นี่ ออกจากซอยนี้ กลับเข้าไปอีกซอยนึง คือซอยที่ว่าด้วยคุณทักษิณ โตเร็วรวยเร็ว ผลสำคัญที่สุดเนี่ย อันนี้ฝาก ฝากไปถึงคงจะมีคนที่เป็นรุ่นน้องผมในห้องนี้หลายคนเหมือนกัน โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่อยากเป็น Entrepreneur อยากจะประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
 ขอให้รู้ว่าการโตเร็วเกินไปมันมีข้อเสีย ข้อเสียนั้นก็คือว่า เรายังอาวุโสไม่พอที่จะรู้จักคนได้ครบ แล้วความรู้จักคนเป็นความรู้ที่สำคัญที่สุดในการเอาตัวรอดในชีวิต และในความสำเร็จมากกว่าวิชาการทั้งหลาย ทั้งปวง ซึ่งหัวดีก็เรียนได้ แต่การคบคนต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นเนี่ย อย่าเป็น young man in a hurry? กันจนเกินไปนัก 
ผมนำเรื่องนี้ เตือนเพื่อนผมไปแล้ว คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่าเป็น young man in a hurry อยู่ซักพักหนึ่ง ก็อาจจะได้เป็น เพราะว่ามันมีไม่กี่คนเหลืออยู่ (หัวเราะ ตบมือ) จะรีบไปไหนเล่า จะรีบ ก็ไม่ใช่ว่าช้าเลยนะครับ หรืออย่าไปลังเล ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่ไป ไอ้นี่ขอคิดดูก่อน ในที่สุดก็เป็นลุงจิ๋ว (เสียงหัวเราะ) ลุงจิ๋วเนี่ย เขาเชิญไปอะไรก็ไม่ไปทั้งนั้น ประกาศตัวเองเป็นโซ่ข้อกลาง แล้วก็ยกโซ่ข้อกลางไปให้เขา เขาก็ไม่เอา บอกลุงเอาโซ่กลับบ้านไปเหอะ ซึ่งผมเสียใจแทน เพราะพล.อ.ชวลิตเนี่ย ไม่ใช่ผู้นำที่เก่ง แต่เป็นนักคิดที่ใช้ได้ พล.อ.ชวลิตเนี่ย เป็นเสนาธิการที่เก่ง แต่เป็นผู้บัญชาการที่มีปัญหา 2 หน้าที่นี้ไม่เหมือนกันนะครับ คนบางคนเหมาะจะเป็น CEO คนบางคนเหมาะจะเป็นเพียง Adviser หรือ Counselor  เพราะคนที่เป็น Adviser หรือ Counselor เนี่ย เขาไม่ต้องไปรับ Pres
sure ของการทำงาน แต่ว่าคนที่รับ Pressure ในการทำงานเขาอาจจะไม่มีเวลาคิดเหมือนกับคนที่เป็น Counselor และ Adviser เขาถึงต้องถาม นี่ท่านช่วยคิดให้หน่อย คุณช่วยคิดให้ผมที ช่วยคิดให้ฉันที แล้วก็เอาผลจากการคิดมาตัดสินใจโดยคนที่มี Leadership สูง คือ CEO ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม เพราะฉะนั้นเราเลือกนายกรัฐมนตรีก็เลือก CEO ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเหมาะที่เป็น CEO นี่ครับ บางคนเหมาะจะเป็น CFO CFO ไม่ UFO นะครับ 
Friendship financial Officer บางคนเหมาะจะเป็น CIO Chief information Officer บางคนเหมาะจะเป็น COO Chief operation Officer ไม่เหมือนกันและในทางการเมืองเนี่ยมันข้อเสียตรงที่ว่าทุกคนหวังตำแหน่งสูงสุดทั้งนั้นโดยไม่ดูตัวเองเลย คนบางคนเนี่ยเหมาะจะเป็นบางตำแหน่ง และทำได้ดีมาก แต่ว่าตอนที่ขึ้นไปแล้วเนี่ยลำบาก ราชการก็เป็น รองอธิบดีบางคนเก่งมาก พอเป็นอธิบดีขึ้นมาวินาศเลย เป็นรองผู้ว่าการเนี่ยชั้นหนึ่ง เป็นรองผู้ว่าการที่หาไม่ได้แล้ว แต่เป็นผู้ว่าการที่โหลยโท้ย  หลักการนี้ก็คือหมายเลย 2 ชั้น 1 แต่หมายเลย 1 ชั้นเลว มีบ่อยไป ๆ เพราะจะนั้นรัฐมนตรีที่เก่งไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่เก่งเสมอไปนะครับ นายกรัฐมนตรีที่เก่งบางทีก็เป็นรัฐมนตรีที่ไม่เก่ง นายกทักษิณเนี่ยผ่านการเป็นรัฐมนตรีน้อยมากนะ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแค่ 100 วัน และไม่ได้เป็นอีกเลยมาเป็นรองนายกดูแลการจราจร  และà¸
›à¸£à¸°à¸à¸²à¸¨à¸§à¹ˆà¸²à¸ˆà¸°à¹à¸à¹‰à¹ƒà¸™ 6 เดือน ภายใต้รัฐบาลบรรหารปวดกระบานเลยในที่สุดก็ทำไม่ได้ แต่มาเริ่มต้นโครงการซึ่งตอนหลังมาเป็นนายกแล้วเนี่ยก็มาผลักให้เกิดขึ้นได้คือรถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินเนี่ยคิดมานานแล้วจะมาผลักดันให้เกิดขึ้นได้ภายใต้คุณทักษิณเหมือนสุวรรณภูมิเหมือนโครงการอีกหลายโครงการ ประเทศไทยเนี่ยพี่น้องทราบดีว่าไม่ใช่เมืองที่คิดอะไรไม่ออกนะครับ แต่เป็นเมืองที่คิดอะไรก่อนคนอื่น และทำหลังสุด ไม่ใช่คิดไม่ออกนะ คิดเป็น รู้ ว่าเมืองใหญ่ในกรุงเทพต้องมี Mass Transit ขับแต่ละคันมันก็เป็นโชว์รูมรถทั้งนั้นและ มันไปไหนไม่ได้ เหมือนที่ใครเล่าหลายปีแล้วไงนั่งขับฝรั่งลงจากเครื่องบินแล้วนั่งรถคนมารับออกจากสนามบินดอนเมือง และชั่วโมงครึ่งผ่านไปถามบอกทำไมยังไม่ออกจากที่จอดรถ  จริง ๆ มันติดทั้งวิภาวดีมันนึกว่าที่จอดรถสนามบิน เวà¸
£à¸à¸£à¸£à¸¡à¸ˆà¸³à¸žà¸£à¸²à¸à¸ˆà¸£à¸´à¸‡ ๆ เพราะฉะนั้นเนี่ยบรรยากาศแบบนั้นเนี่ยมันคือสิ่งที่เรา เราอยากจะแก้ไข นายกฯทักษิณเป็น Commander เทรนตัวเองให้เป็นอย่างนั้น Tran ตัวเองให้เป็นคนที่อยู่เหนือกว่าความรู้สึก แล้วก็ตัดสินใจให้ได้ เพราะคนที่ฟูมฟายกับความรู้สึกเนี่ยตัดสินใจไม่ได้ ทีนี้มันก็มีแบคแลช มี Side effect เมื่ออยู่เหนือความรู้สึกมาก ๆ บางครั้งลืมความรู้สึก พูดง่าย ๆ ว่า Commander เนี่ยบางครั้งลืม celebrity ซึ่งอันนี้เป็นส่วนอ่อนทีเราต้องแก้  เพราะบางครั้งการพูดบางอย่าง การแสดงออกบางอย่างมันสะเทือนใจคนก็ได้  แต่ว่าท่านรู้อะไรมากจนกระทั่งบางทีมันโพร่งออกไป เหมือนตอนนั้นมีอยู่ตอนหนึ่งเนี่ย ผมเป็นโฆษกอยู่เราก็ไม่สบายใจและรู้ว่าหมอประเวศ วะสีเนี่ย ออกมาสอนนายกฯอีกแหละ ท่านนายกฯไม่ชอบให้ใครสอน เตือนได้แต่อย่าสอน มาส่วนตัวแล้วมาให้คำแนะนำท่านนายกฯเà¸
™à¸µà¹ˆà¸¢à¸à¸£à¸²à¸šà¹„หว้ขอบคุณ เพราะเป็นคนรู้จักบุญคุณคน แต่พูดออกผ่านสื่อมาแบบสอนเนี่ยนะ ถูกด่ากลับทุกคน ไม่ชอบ มาสอนกันใกล้ ๆ ขอบคุณมากที่เอาคำแนะนำมาให้ผมเห็นมาแล้ว เหาะผ่านมาอย่างงี้แล้วต้องกลัวตัวสั่นอยู่ทางฟากนี้ของไมโครโฟนเนี่ยไม่เป็นไม่ชอบ หมอประเวศก็วิจารณ์มารุนแรง นายกฯจะออกจากบ้าน ผมก็พยายามจะประสานก่อนล่วงหน้า ขอไม่เล่ารายละเอียดแล้วกันว่าผ่านใคร อย่างไง แต่พยายามประสานล่วงหน้าว่าท่านครับยังงี้ ๆ ๆ จุดประสงค์คือเพื่อให้โกรธกับผมเสียก่อน  ถ้าโกธรกับผมเสียแล้วจะได้ไม่ต้องโกธรกับผู้สื่อข่าว ผมก็นึกว่าอย่างงั้น คือให้ลงที่เราเสียก่อน เพราะโฆษกเนี่ยเป็นกระสอบทราย มันเป็นหน้าที่ ถ้าไม่พร้อมเป็นกระสอบทรายก็อย่าเป็นโฆษก  เพราะโฆษกเนี่ยต้องพร้อมให้นายบอกว่าคุณไปพูดอย่างงั้นได้ยังไง และบอกครับ ๆ คราวหน้à¸
²à¸œà¸¡à¸ˆà¸°à¹à¸à¹‰à¹„ขครับความจริงคำพูดนายทั้งนั้นแนะ อันนี้เป็นหน้าที่โฆษก เพราะฉะนั้นประเด็นก็คือว่าเรา ๆ ก็พยายามจะซูดทำให้มันเบาลง ทำให้มันนิ่ม ทำให้มันเย็น แต่ปรากฎว่าพอมาถึงผู้สื่อข่าวเขาก็มีวิธีการที่จะจุดไฟกันเอง  ผู้สื่อข่าวเขาจะมาทำงานด้วยไม้ขีด และไฟแช็ก ทำไมไม่ร้อนเลยพี่วันนี้จุดไฟ พอพี่ร้อนปั๊บสัมภาษณ์ เพราะชอบร้อน ๆ เพราะนักข่าวไทยไม่ค้นคว้าชอบเอาคำพูดคนมาชนกัน เพราะฉะนั้นพูดไม่มันมันไม่มีข่าวนะฮะ เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องของข่าวเมืองไทยเนี่ย 80% เป็นเรื่องใครพูดอะไร ก็จะไปสนใจทำไมใครพูดอะไร สนใจว่าใครทำอะไรไม่ดีเลอะ สนใจว่าใครพูดอะไรอยู่ทั้งวันนักข่าวไทยเนี่ย เอาเถอะ กลายเป็นสังคมที่พูดกันโดยไม่ต้องทำก็เลยเอาคำพูดว่าใครพูดคมกว่าใคร คนนี้มีดโกนมาอีกแล้ว ก็เตรียมจะพอคุณทักษิณมาก็เตรียมฟันเลย บอกà
¸§à¹ˆà¸²à¸«à¸¡à¸­à¸›à¸£à¸°à¹€à¸§à¸¨ ราษฎรอาวุโสประกาศว่าท่านก็ขึ้นจี๊ดหูแดงเห็นได้ชัดแต่ไกล  และท่านก็บอกว่าราษฎรอาวุโสอะไร พ่อผมยังแก่กว่าอีก นึกออกไหม ท่านเป็นคนแบบนี้ หมอประเวศก็โกธร งอน บอกว่านายกฯไม่ยอมรับตำแหน่งราษฎรอาวุโส  ซึ่งไม่รู้ว่าใครตั้งเหมือนกัน แต่ว่าท่านถือว่าท่านเป็น ทุกท่านก็ยอมรับว่าเป็นราษฎรอาวุโส สวัสดีครับท่านราษฎรอาวุโส เออ มันอยู่ในสาระบบไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาว่านายกฯก็บอกว่าพ่อท่านแก่กว่า  แปลว่าท่านไม่ยอมรับว่าเป็นราษฎรอาวุโสโกธรกันจนกระทั่งบัดนี้  เพราะฉะนั้นเนี่ยการเป็นนายกฯเมืองไทยเนี่ยมันก็ลำบากว่าเวลาที่เขาอยากจะพึ่งพาอาศัยเขาก็อยากให้ท่านมีอำนาจมาก เวลาที่เขาอยากจะสอนท่าน เขาอยากให้เราไปนั่งพับเพียบฟัง มันก็ทำตัวยาก วันนี้ให้ยืนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้เขาพึ่งนกกาอาศัย อีกวันหนึ่งทำไมกร่à
¸²à¸‡à¹€à¸«à¸¥à¸·à¸­à¹€à¸à¸´à¸™ เพราะวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาพึ่งจะมาสอนมวย แต่ยังทำท่ากร่างอยู่เท่าเดิมเพราะเมื่อก่อน วันก่อนมาพึ่งทำตัวไม่ถูก  เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีเมืองไทยเนี่ยก็เป็นเรื่องที่น่าทำ น่าเป็น  แต่ว่าจะต้องรู้ว่าจะได้รับเครดิตในการทำงานเมื่อตายไปแล้วเท่านั้น นายกฯเมืองไทยเนี่ยดี เมื่อตายไปแล้วกันเกือบทุกคนนะครับ คือเรียกว่า รีบีน คือตายไปแล้วดี เพราะเราถือว่าการพูดไม่ดีกับคนตายเป็นบาป เพราะว่าพูดแต่ไม่ดี แต่ตอนที่นายกฯยังอยู่ คือนายกฯมี 2 แบบ นายกฯที่ทำท่าจะไม่เป็นอีกแล้วเราก็ชมได้ อย่างอาจารย์ธนินทร์ กรัยวิเชียร เคยเป็นนายกฯ เดี๋ยวนี้เป็นองคมนตรีแล้วคงไม่เป็นแล้ว คงไม่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินหรอก สมมติเงียบนะฮะ 
เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ไม่ต้องไปวิจารณ์อะไร แต่ว่าถ้าหากว่าเป็นคุณบรรหารเนี่ยอาจจะเป็นอีก ถ้าหากเป็นพลเอกชวลิตอาจจะเป็นอีก ถ้าหากเป็นคุณชวนอาจจะเป็นอีกก็ได้  เพราะฉะนั้นตรงเนี่ยก็เลยกลายเป็นว่า เอ้ากลับมาถนนใหญ่ เพราะฉะนั้นการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเนี่ยมันจึงเป็นเรื่องของปฏิสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายก็คือฝ่ายอมาตยาธิปไตยที่คิดว่านายกรัฐมนตรีไม่ควรมาเปลี่ยนแปลงประเทศจนขัดกับชนชั้นนำ ไม่ได้ว่าเรื่องแก้ปัญหาคนจน แต่ถ้าหากการแก้ปัญหาคนจนสะเทือนคนรวยทำไม่ได้ เพราะคนจนเนี่ยเขายอมรับสภาพอยู่แล้ว เพราะว่าโฆษณาชวนเชื่อกันมาหลายร้อยปีแล้วว่าทำบุญมาแค่นี้ถึงจน เขายอมรับกันอยู่แล้วจะมาทำให้มันเสียบรรยากาศทำไม ชาติหน้าก็ทำไปนู้นใส่เงินเข้าไป 10 บาท เหรียญ 10 เหรียญ และก็บอกว่าชาติหน้าขอ 100 ล้าน อาจารย์คึกฤทธิ์เคยบอกว่
าค้ากำไรเกินควร แต่ก็ช่างเถอะเราก็มีสิทธิ์ที่จะขอผ่อน แต่ประเด็นก็คือว่ารัฐบาลอีกข้างหนึ่งก็คือรัฐบาลที่มีสิ่งที่คนอเมริกันมีเยอะแล้วคนไทยไม่ค่อยมีก็คือ Cando spirit  นายกฯทักษิณเชื่อว่าทุกอย่างทำได้  เพราะว่าตัวเองเจ๋งมาแล้วกลับมาสู่ความสำเร็จได้ก็เชื่อว่าทุกคนก็ทำได้ แต่ว่าท่านไม่ได้คิดในตอนนั้นว่าการทำประเทศให้เจริญเนี่ยไม่ได้เป็นที่ Appreciate ของทุกคนเสมอไป นั่นคือสิ่งที่ท่านรู้ด้วยความยากแค้น ....... the hard way ซึ่งเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะถ้าหากยังทำประโยชน์กับประเทศอีกยังมีไฟอยู่ก็ต้องมีการปรับโครงสร้างเดิม ถ้าหากอยู่ในสภาพเดิมก็อย่าคิดทำประโยชน์มันง่าย ๆ แค่เนี่ยครับสมการนี้  เพราะว่าชนชั้นนำในเมืองไทยเนี่ยมองการบริหารประเทศว่าเป็น Zero sum game คือถ้าคุณทักษิณได้เขาเสียหมด  เพราะฉะนั้นต้องทำให้เขาได้เพื่อให้คà¸
¸à¸“ทักษิณเสียหมด มันเป็น Zero sum game มันไม่ใช่เป็น Profit sharing ไม่ใช่การมีกำไรอยู่ด้วยกัน คนนี้ถือมากคนนี้ถือน้อยไม่ใช่  เป็นเรื่องเธอ หรือฉัน  เพราะฉะนั้นประเด็นตรงนี้เนี่ยจึงได้เป็นเรื่องที่นำไปสู่ความลำบากยากแค้นนำมาสู่วิกฤตทางด้านการเมือง เอาละครับผมใช้เวลาพูดอดีตเยอะไปแล้ว เลิกประชุม 
----------------- เปิดเพลง --------------------------
ขอไมโครโฟนดังขึ้นสักนิดครับ ช่วงนี้เราจะพูดคุยไปสักระยะหนึ่งนะครับ และหลังจากนั้นจะเปิดให้ถามคำถาม  ซึ่งท่านเขียนมาก็ได้ผมเข้าใจว่าผู้จัดมีแบบฟอร์มให้ใช่ไหมครับ สำหรับท่านที่อยากเขียนก็เขียน สำหรับท่านที่อยากอ่านสดก็เชิญได้  และการถามสดกับการเขียนจะได้สลับกันไป เพราะผมเชื่อว่าหลายท่านประกอบธุรกิจท่านมีคนรู้จักที่เมืองไทยอยู่มาก ...วันนี้ได้เนี่ยเล่าอะไรไปตามธรรมชาติเยอะ ไอ้ที่เตรียมมานั้นเตรียมไว้อย่างหนึ่งที่พูด ๆ ไว้อย่างหนึ่ง เพราะว่าเป็นธรรมชาติ...
พี่น้องที่เคารพครับผมเล่ามาถึงเหตุการณ์ที่นำไปสู่รัฐประหารที่พูดกันสั้น ๆ ว่ารัฐบาลทักษิณไปขัดผลประโยชน์จึงทำให้เกิดรัฐประหารนั้นเนี่ยเป็นความจริง แต่ผลประโยชน์นั้นเป็นที่ผมได้ลำดับความมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ผลประโยชน์เรื่องเงินทอง เป็นผลประโยชน์ในเรื่องศักดิ์ศรีหน้าตา ผลประโยชน์ในเรื่องความศรัทธา ผลประโยชน์ในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศก็อีกอย่างหนึ่ง แล้วรัฐบาลทักษิณมาทำก็อีกแบบหนึ่ง เหล่านี้มันเป็นปัญหาที่สับสนของคนเป็นจำนวนมากที่เคยมีอำนาจและยังคงมีอำนาจอยู่ในประเทศไทย ผมอยากจะเรียนพี่น้องอย่างนี้ครับว่าประเทศไทยของท่านไม่ได้ด้อยพัฒนานะครับ เพียงแต่เรามีชนชั้นนำที่ด้อยพัฒนา แล้วไม่ได้พูดเป็นยาหอมว่าคนไทยอยู่ที่ไหนก็เอาตัวรอดได้...จนหลายคนต้องพูดว่าคนไทยเก่งเสมอถ้าไม่ได้อยู่ในระบบà¹
„ทย  เป็นที่ยอมรับของ Organization ต่าง ๆ ทั้งของผิวไหนทั้งสิ้น เขาเจอคนไทยเขาก็จะทึ่งในความสามารถ และมีน้ำใจ เพราะคนไทยมีคำว่าน้ำใจมีคำว่าถูกใจ พอมีน้ำใจถูกใจพร้อมที่จะให้...ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้เรามีคะแนนพิเศษอยู่ในใจ..แต่ปัญหาคือระบบของประเทศเราเป็นระบบที่..ใน 3-4 เรื่อง 1.ก็คือเป็นระบบที่ทำให้การทำความดีทำได้ยาก คนทำความดีเป็นตัวประหลาด คนทำความดีดูเป็น ….. maker คนทำความดีดูมีวาระซ่อนเร้น เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ก็เลยตัดสินใจเป็นอย่างทีทางนี้เรียกว่า...............ก็คือกึ่งดิบกึ่งดี เมื่อไหร่ทำความดีได้ก็ทำ เมื่อไหร่ทำความดีไม่ได้ก็ลอยไปร่วมกับฝ่ายชั่ว และก็ร่วมทำชั่วกับเขาทั้งที่ใจไม่ได้ชั่วเลย เพียงแต่อ่อนแอ อย่างที่ 2. ซึ่งไม่ด้อยพัฒนาก็คือเอาไปสร้างระบบฝั่งใจเกี่ยวกับเรื่องชนชั้นว่าใครเกิดมาแบบไหนก็จะอยู่ได้แค่นà¸
±à¹‰à¸™ จนทั้งหลายคนขาดความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาตัวเอง นี่แหละครับที่ทำให้ระบบของไทยมันต่างจาก American Dream American Dream มันก็ไม่ได้ง่าย พี่น้องอยู่ที่นี่ก็รู้ มันก็มีความตึงเครียดระหว่างเชื้อชาติ มันก็มีความตึงเครียดแม้แต่ในหมู่กันเอง มันมีปัญหาทั้งนั้นแหละครับ แต่ถ้าถามว่าพื้นฐานของประเทศเนี่ย มันไม่ใช่การกำจัดดารา ไม่ใช่กำจัดคนหน้าใหม่ ที่จะมาแชร์ผลประโยชน์ของประเทศ มันก็ทำให้ประเทศนั้นสำเร็จไปได้ ถึงแม้ว่าประชาชนเนี่ย จะมีความเป็นศัตรูกัน หรือมีการแข่งขันอย่างรุนแรง และอีกอย่างนึงคืออย่างสุดท้ายเนี่ย ประเทศไทยเราไม่สอน แล้วไม่สนับสนุนให้คนพูดความจริง ทำให้การนินทา กลายเป็นเรื่องสำคัญ และการนินทาเปลี่ยนชีวิตของคนมาเยอะ ชะตากรรมของหลายคนเนี่ย ต้องพลิกผันไปเพราะเสียงนินทาของคน โดยไม่มีทางจะไปยืนยันขà
¹‰à¸­à¹€à¸—็จจริงได้ว่าเป็นอย่างไร คุณทักษิณก็เป็นหนึ่งในคนไทยจำนวนมากที่โดนผลจากการนินทา 
ผมอยากจะต่อประเด็นที่ 2 ที่ได้ตั้งใจไว้ก็คือ คุณทักษิณโกงมั๊ย คุณทักษิณจงรักภักดีมั๊ย เอาเรื่องที่ 2 ก่อนนะครับ คุณทักษิณเนี่ย ผมสรุปเลย จากที่อยู่ใกล้พอสมควรว่า เป็น Loyalist  เป็นคนนิยมเจ้า ทุกครั้งที่เข้าเฝ้าทูลละอองทุลีพระบาท โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนี่ย ท่านจะหน้าบาน เหมือนลูกที่เข้าไปหาพ่อ แล้วพ่อตบไหล่บอกเออ เอ็งใช้ได้ (เสียงตบมือ) จะหน้าบานหมดเลย เพราะฉะนั้นใครที่บอกว่าพระเจ้าอยู่หัวฯไม่โปรดคุณทักษิณ โกหก แต่ว่าความที่โปรดเกินไปต่างหากในตอนช่วงแรก ซึ่งทำให้กระบวนการตอแหลมันทำงาน เกิดการใส่ไฟ เกิดการสุมฟืน เพราะความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายกรัฐมนตรีนั้น ถ้าผ่านท่าน (ฟังไม่ชัด) ละ 1 พระองค์ และ 1 คน สามารถจะเชื่อมโยงได้โดยตรง จะทำให้นายหน้าหายไปหลายคน (เสียงตบมือ) เพรà¸
²à¸°à¸™à¸²à¸¢à¸«à¸™à¹‰à¸²à¹€à¸™à¸µà¹ˆà¸¢à¸¡à¸µà¸›à¸£à¸°à¹‚ยชน์จากการที่บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นจะไปทูลให้ นั่นคือประโยชน์มหาศาล ซึ่งเอาไปแลกเป็นอะไรก็ได้ ทั้งที่ความจริงไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่เรื่องที่รู้ถึงพระเนตร พระกรรณเลย แต่อ้างตัวเอง เพราะฉะนั้นไอ้การอ้าง หรือว่ามีความสำคัญ มีความใกล้ชิด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สถาบันถูกเข้าใจ (ฟังไม่ชัด) ว่าเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง 
เพราะฉะนั้นบรรยากาศในเมืองไทยช่วงปีเศษ ๆ ที่ผ่านมานี้ ผมและพรรคพวก นปก. ถึงต้องผ่านคุณเปรมไงครับ (เสียงตบมือ) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์เนี่ย เคยเป็นคนดี แต่ไม่ใช่ IS นะเป็น WAS (เสียงหัวเราะ) เพราะพล.อ.เปรม ลืมว่าตัวเป็นอะไร ท่านเป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีความใกล้ชิดเบื้องพระยุคบาท แต่พล.อ.เปรมไม่ใช่เจ้า พล.อ.เปรมไม่ใช่เป็นหนึ่งในพระบรมวงศานุวงศ์ พล.อ.เปรม เป็นเพียง one of us แต่คิดว่าตนเองเป็น one of flame (เสียงตบมือ) ผลจากความคิดนี้ ซึ่งในทางศาสนาเรียกว่า มิจฉาทิฐิ ทำให้กลายเป็นการกระทำที่ผิดหลายเรื่อง เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่ควรเกี่ยวหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นใครถามผมบอกว่า เป็นเด็กไปก้าวร้าวผู้ใหญ่ ไม่เลย ความดีของพล.อ.เปรมเนี่ย มีมากในอดีต และไม่มีใครจะลบไปจากประวัติของพล.อ.เปรมได้ แต่ถ้าพล.อ.เปรมทำอะไรผิดพลาด บกพร่อง ก็ไม่มี
ใครช่วยพล.อ.เปรมได้เช่นเดียวกัน ในไตรภูมิพระร่วง เราเชื่อแบบแบบว่า ยมบาล แบ่งคนเป็น 2 บัญชี บัญชีความดี คือสมุดปกทองคำ ให้สุวรรณดูแล และความชั่วมีสมุดปกหนังหมา ให้สุวรรณ ดูแล (เสียงตบมือ) เวลาวิจารณ์ท่านก็วิจารณ์ถึงข้อความในสมุดปกหนังหมา ใครอยากจะชื่นชมสมุดปกทองคำก็ชื่นชมไปสิครับ เป็นคนละส่วนกัน ไม่เคยได้ยินหรือว่าในศาสนาพุทธเนี่ย ไม่มีการล้างบาปนะ หลักของกรรมยังอยู่ที่เดิม กรรมดีก็อยู่ที่ดี กรรมชั่วก็อยู่ที่ชั่ว ไม่ใช่ทำความดีแล้วไปล้าง ไม่ใช่บัญชี กรรมนั้นเป็นสิ่งที่ประพฤติปฏิบัติแล้วก็อยู่คงที่แต่ว่าถ้าหากปฏิบัติกรรมดีได้มากกว่ากรรมชั่ว ก็จะเกิดธรรมอย่างมากและชัดเจน จิตใจก็ผ่องแพ้วขึ้น และมีพลังที่จะอยู่ไปได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต อย่างคนที่มีความสุข และมีความปกติ คนเราชั่ว 7 ปี ดี 7 หน แต่มันต้องà
¸—ำความดีให้มากกว่า 7 หน ไปเรื่อย ๆ แล้วมันไม่ล้มล้างผลกรรม แต่มันก็อยู่ได้ 
เพราะฉะนั้นเวลาวิจารณ์พล.อ.เปรมเนี่ย ผมก็พูดถึงปัญหาเรื่องนี้ คือปัญหาเรื่องที่ว่า พล.อ.เปรมเนี่ย เป็น honest broker แต่ปัญหาก็คือพอหลังจากนั้นมาแล้ว พล.อ.เปรม กลายเป็น Self Service ต้องขอประทานโทษผมใช้อันนี้เพราะว่าผมทราบว่าหลายท่านเนี่ยมีเพื่อนฝูงเป็นชาวต่างประเทศสนใจเรื่องเมืองไทย ผมอยากให้อย่างน้อยก็มี Keyword ซึ่งมันจะเป็น ........ เขาจะได้รู้จัก เพราะเรื่องนี้มันต้องอธิบายไปทั่วโลก เพราะฝรั่งมังค่า ไม่เข้าใจนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย ก็คนไทยยังไม่เข้าใจเลยว่า อยู่เฉย ๆ ทำไมนั่งเขกกระบาลตัวเอง (เสียงตบมือ) ประเทศกำลังจะดีอยู่แล้ว ประเทศอื่นเนี่ยเขาต้องเดินไป แล้วมีคนสะดุดขาให้ล้ม ประเทศไทย ............ ขัดขาขวาลง อ้อ ขาขวา ขัดขาซ้ายล้ม ขอประทานโทษ มันถึงจะถูกทิศทางของซ้ายกับขวา เพียงแต่ประเด็นก็คือว่าเราจะแก้สถานการณ์กันได้อย
่างไร 
Imageอ้อ มีข่าวบอกว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา จะมาที่วัดไทยพรุ่งนี้ ก็ดี (เสียงตบมือ) ลองติดต่อสิครับ จะ Debate กันมั๊ย (เสียงตบมือ) มันจะได้เคลียร์ไง ว่าอะไรเป็นอะไร ผมน่ะมีเรื่องจะพูดกับคุณหญิงด้วย เดี๋ยวกลับมาที่ Honest broker นะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ย ปัญหาใหญ่ที่นำมาสู่วันที่ 19 กันยายน มาจากความเปลี่ยนไปของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งผมก็เห็นใจท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ ที่ต่างจากผู้ใหญ่ทั่วไป ท่านไม่มีครอบครัว ท่านไม่มีงานอดิเรก ท่านไม่เข้าวัด ท่านไม่ฟังธรรม ท่านไม่มีเพื่อน (เสียงหัวเราะ) เพราะฉะนั้นเนี่ย ชีวิตของพล.อ.เปรมก็คืออยู่กับอำนาจ วันทั้งวันคือการจัดการบริหารอำนาจ อำนาจเป็นทั้งของเล่นและของจริง อำนาจเป็นชีวิตและลมหายใจ เพราะฉะนั้นเมื่อพล.อ.เปรมรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณเนี่ย ไม่ให้ความยำเกรง และมาดึงอำนาจà
¸ªà¹ˆà¸§à¸™à¸—ี่ท่านคิดว่าเป็นของท่านไป เกมนี้ Zero sum game …………….. (ฟังไม่ชัด) มันเริ่มจากตรงนั้น ถามว่า อะไรเป็นรูปธรรม รูปธรรมคือผมทหารครับ ภายใต้นายกฯ ตั้งแต่นายกฯ ชาติชายมาเลย ซึ่งต่อจากพล.อ.เปรม จึง ......................... (ฟังไม่ชัด)
พล.อ.เปรม ก้าวลงจากตำแหน่งนายก แล้วให้พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งภายหลังเป็น พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณเป็นแทน พล.อ.ชาติชายถูกยึดอำนาจโดยรสช. เปลี่ยนเป็นอานันท์ ปันยารชุน อานันท์ ปันยารชุน พ้นจากตำแหน่ง เปลี่ยนเป็นสุจินดา คราประยูร สุจินดา คราประยูรถูกไล่จากพฤษภา กลายเป็น อานันท์ ปันยารชุน 2 หลังจากอานันท์ ปันยารชุนแล้วก็เป็นชวน หลีกภัย และชวน หลีกภัย ก็ อ้อ ขอโทษครับ จากนั้นก็เป็นชวน หลีกภัย เอ้อ ชวน หลีกภัยก่อน แล้วจากนั้นถึงมาเป็น แล้วก็มาเป็น ชวลิต แล้วจึงกลับมาเป็นชวน แล้วคุณชวน ก็แพ้เลือกตั้งให้คุณทักษิณ แล้วคุณทักษิณก็โดนยึดอำนาจ ในวันที่ 19 กันยายน ลำดับอย่างนี้ก็จะนึกภาพ 
นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ พล.อ.ชาติชายเป็นต้นมา หารือกับพล.อ.เปรม เรื่องการโยกย้ายนายทหาร พูดง่าย ๆ ว่าพล.อ.เปรมเนี่ย มีบทบาทในการโยกย้ายทหาร โดยที่ตนเองก็พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมานานมาก ในบ้านสี่เสาเทเวศน์ จะมีการจัดกิจกรรมแสดงพลัง เช่นวันเกิด วันสงกรานต์ วันปีใหม่ ทหารจะต้องมาเข้าแถวกัน แล้วมอบดอกไม้ให้ป๋า ใครไม่มาเนี่ย จดชื่อนะครับ แล้วโยกย้ายคราวหน้า ก็เจอกัน เพราะฉะนั้นเนี่ย ความสนใจในเรื่องของสำนักเนี่ย มีผลทำให้ท่านมีปัญหากับรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลทักษิณเนี่ยมี 2 .......... ซึ่งทำให้ป๋าเนี่ย ............. 1.ก็คือคุณทักษิณมีความรู้สึกว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ครั้งแรกของประเทศ ก็คงไม่จำเป็นจะต้องไปพึ่งพาความช่วยเหลือที่อยู่นอกระบบ นี่ถือว่านอกระบบ เพราะว่าไม่ได้เขียนตรงไหนเลยว่านายกรัฐมนตรีต้องไปปรึกษาอดีตนายกรัฐ
มนตรีในการโยกย้ายทหาร อันที่ 2 เป็นที่คุณทักษิณเอง ซึ่งเป็นคนทำงานมีระบบ อันนี้เป็นข้อหนึ่งนะครับ ที่ผมอยากจะเรียนเป็นบทเรียนจริง ๆ ผิดถูกให้ประวัติศาสตร์ตัดสิน แต่ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่ว่า คุณทักษิณเป็นคนจัดระบบ มี System System นั้นเนี่ย สมมติว่ามันมีอยู่ 10 ขั้นตอน คุณทักษิณไม่ต้องการให้มีขั้นตอนที่ 11 ในขณะที่เมืองไทยเนี่ย เป็นเมืองที่ไม่ชอบมีระบบ เพราะการมีระบบมันทำให้ความสำคัญของคนลดลงไป ก็ทำให้มันเละเข้าไว้ แล้วใครไปถึงก่อนได้คนนั้นเอง ทั้งที่มันเละ ๆ เทะ ๆ เพราะความเก่งแบบผู้ใหญ่ไทยก็คือการจัดการของเละ ให้มันได้ผล ต่างจากคนอเมริกันที่จัดระบบ เพราะฉะนั้นเนี่ยในระบบอเมริกันจึงแทบจะไม่มีคนที่เป็น indispensable มันแทนได้หมด 10 นิ้วเท่ากัน แต่สมองเท่ากัน อาจจะมีเก่งบ้าง ไม่เก่งบ้าง แต่เมืองไทยไม่ได้ แต่เมืองไทà
¸¢à¸¡à¸µà¸šà¸²à¸‡à¸•à¸³à¹à¸«à¸™à¹ˆà¸‡à¸—ี่ถือว่า indispensable ถ้าตัวไม่อยู่แล้ว ยุบตำแหน่งนั้นเลยก็ได้ก็ไม่มีใครจะมาแทนได้ ใหญ่โตเหลือเกิน เป็น Tailor made position  ให้ช่างตัดเสื้อตัดมาเฉพาะตัว ใช้อยู่คนเดียว อันนี้คือสิ่งที่ คุณเปรมคิดว่าตนเองเป็นตำแหน่งนั้น จริง ๆ แล้วเนี่ยการเป็นประธานองคมนตรีของท่าน ท่านก็ข้ามมา แต่นั่นเป็นเรื่องของราชประสงค์ แต่ถ้าเป็นเรื่องอาวุโสจริง ๆ เมื่อศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งประธานองคมนตรีด้วยการแก่อาสัญกรรม ท่านป่วยอยู่นานเป็นปีนะครับ แต่ยังเป็นประธานองคมนตรี คุณเปรมเนี่ยเป็นองคมนตรีเฉย ๆ แล้วเมื่อท่านอาจารย์สัญญา อดีตนายกฯ อดีตประธานศาลฎีกา แล้วก็ประธานองคมนตรีในขณะนั้นท่านถึงแก่อาสัญกรรม บุคคลที่อาวุโสลำดับรองลงมาคือ ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่อาจารย์ธานินทร์ ก็
ไม่ขึ้น จริง ๆ แล้วอาวุโสในเชิง ในเชิงอื่นนะครับ เช่นความใกล้ชิดอย่างแท้จริง เป็นที่รับรู้กันหมดในนั้น ก็ยังมีคนที่ยังมากกว่าท่านอาจารย์ธานินทร์ แล้วทั้งพล.อ.เปรม คนนั้นคือ ดร.เชาน์ ณ ศีลวัตร 
แต่นั่นแหละครับ Politics มันมี มันก็ทำให้บรรยากาศแบบนี้ เพราะฉะนั้นนี่ กลุ่มคนวันเสาร์ฯ ซึ่งหลายท่านก็ให้ความสนับสนุน มาเป็นพันธมิตรกับเราเกี่ยวกับเรื่องของความเคลื่อนไหว นปก. ที่สนามหลวง ถึงไม่จัด Varity talk แต่ว่าต้องงดไปเพราะมี พรก.เลือกตั้ง ราชกฤษฎีกา เราถึงได้ตั้งชื่อการแสดงนี้ว่า หงอกข้างแคร่ (เสียงหัวเราะ ตบมือ) จริง ๆ มันหอกครับ แต่พอดีหงอกด้วย เลยเรียกว่า “หงอกข้างแคร่” เสียดายที่ไม่ได้แสดงเพราะติดเลือกตั้ง มันจะเป็น Varity talk ที่มีทั้งพูดด้วย ร้องเพลงด้วย แล้วก็เล่นละครล้อเลียนด้วย เผอิญว่า ไม่ได้จัดเพราะติดพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีไม่ได้ ณัฐวุฒิขึ้นไม่ได้ บอกว่าอย่าไปจัดเลย ตัวสนุกอยู่ที่ณัฐวุฒิ เลยต้องรอไว้ก่อนหลังเลือกตั้ง มันจะเป็นการแสดงที่ หงอกข้างแคร่ ตอน “อมาตยาท่าจะบ๊อง” (เสียงหัวเราะ ตบมือ)
 แต่เดี๋ยวจะจัด จัดแล้วส่งทีวีมาเลย จัดที่หอประชุมธรรมศาสตร์ ทีนี้ประเด็นก็คือ เรากลับมาอย่างงี้ เราเข้าซอยอีกแล้ว 
เพราะฉะนั้นเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดขึ้นเนี่ย อยากให้พี่น้องเข้าใจว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นจากประเทศไทย จะพังพินาศทั้งประเทศหรอกครับ มันเกิดขึ้นจากคนไม่กี่คน แต่คนไม่กี่คนนั้นเองเขามีอำนาจมาก เขาก็มีเพื่อนพ้อง เพื่อนฝูงเขามาก เขามีเครือข่าวเขามาก เขามีคนที่กลัวเขามาก เพราะฉะนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีสู้ด้วยการฉายไฟ ไปที่ปัญหาแต่ละปัญหา เพราะคนทุกคนมีปัญญา ที่ว่ายังไม่ออกมาต่อสู้เพราะเขายังไม่รู้ เราไปวิจารณ์พล.อ.เปรม มีคนโกรธผมจะตาย อาจารย์ใหญ่โรงเรียนผมเอง ซึ่งรักผมมาก ยังโกรธผมจนบัดนี้ เพราะนิยมพล.อ.เปรม ผมจบจากสาธิตเกษตร อาจารย์ผมคือ ดร.จงรัก... (นามสกุลฟังไม่ชัด) จากวันนั้น ยังโกรธผมจนทุกวันนี้ ซึ่งผมจะให้ความจริงไปอธิบายกับอาจารย์ คนเราเนี่ยมีอารมณ์กันได้ ในห้องนี้หลายท่านเนี่ย ท่านก็เชื่อคุณสà¸
™à¸˜à¸´ ลิ้มทองกุล ผมไม่ว่าเลย เพราะคุณสนธิ พูดน่าเชื่อจริง ๆ แล้วทางเราไม่อธิบาย เป็นความผิดเราเอง เพราะฉะนั้นฝ่ายรัฐบาลจึงโดนถล่ม ประเด็นที่สำคัญก็คือว่า เราไม่ได้พูดถึงปัญหาสนธิ ลิ้ม หรือทักษิณ หรือพจมาน หรือเปรม หรือใคร เรากำลังพูดถึงว่าอะไรที่มันชนกันในเมืองไทย มันก็มี 3-4 อย่างที่ชนกัน ผมขอพูดเชิงวิเคราะห์สักหน่อย ไม่ได้พอเปิดคำถามแล้วจะได้ลงมาในจุดที่ท่านต้องการ เป็นจุด ๆ ไป 
หนึ่งคือมันเกิดการปะทะระหว่างระบอบอำมาตยาธิปไตย กับระบอบประชาธิปไตย ที่มันต้องสู้กันจนเลือดสาด ก็เพราะว่า ฐานความคิดมันไม่ตรงกัน ประชาธิปไตยเชื่อว่าคนทุกคนเท่ากัน ไม่มีใครเก่งกว่าใครมาก มันเก่งคนละเรื่อง มันเหมือนแขนคนละข้าง มันแทนกันไม่ได้ มันต้องมีไว้ทั้ง 2 แต่อมาตยาธิปไตยเนี่ย มีความรู้สึกสูงในเรื่องของ indispensability คนบางคนเนี่ย อยู่ในที่นั้นเพราะเกิดมาเป็น ก็เป็นเลย เป็นอย่างจริงจัง เป็นอยู่อย่างนั้น เช่นขุนนางทั้งหลายที่มีความรู้สึกว่า ตนเองนั้นมีความไม่เท่าเทียมกับประชาชน ขุนนางมีความรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมกับประชาชน ดูข้าราชการไทยเวลาไปช่วยเหลือชาวต่างจังหวัดชายแดน เขาเรียกว่าช่วยเหลือแบบแถว ?? คือ top down ให้จากบนลงข้างล่าง เออ ให้ ต่อไป กินซะสิ แล้วก็ต่อไป อย่าลืมสำนึกในบุญคุณด้วยล่ะ ไม่ใช่ประชาธิปไตย ปà¸
£à¸°à¸Šà¸²à¸˜à¸´à¸›à¹„ตยเป็นคนที่ให้โดยที่มีความรู้สึกว่า มันก็ สมมติว่าเห็นแก่ตัวที่สุดก็คือทำเป็นเกาหลัง เขาคันเราเกา วันหลังเขาได้เกาให้เราบ้าง อันนั้นคือประชาธิปไตย แต่สูงขึ้นมาก็คือการให้วิธีคิด สังคมจะได้ดีขึ้น เราจะได้ไปสูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้ ถ้า (ฟังไม่ชัด) ซะหน่อย ออกมารณรงค์ให้ไอเสียไปซะหน่อย pollution มันหมดไปซะหน่อย เพื่อที่เราจะได้หายใจสะอาดขึ้น ลูกหลานเราจะได้มีอากาศสะอาดหายใจ นี่ก็สูงขึ้นมา เพราะงั้นฐานประชาธิปไตย กับฐานอมาตยาธิปไตย ไม่เหมือนกัน ผมเห็นใจนะครับ หลายคนที่เป็น Aristocrat …..อย่างคุณอานันท์ ปันยารชุน เนี่ย คุณอานันท์ เป็นคนดี แต่ก็เป็น Aristocrat เพราะฉะนั้นไปอยู่ใกล้คุณอานันท์ก็จะรู้ว่าคุณอานันท์เองเนี่ย อยากใช้ความฉลาดเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของชาติ มีมุมที่ดีนั้นอยู่ในใจ คุณอานันท์ไม่ใช่คนชั่วร้าย แต่คุณอà¸
²à¸™à¸±à¸™à¸—์คิดว่าผลประโยชน์ของชนชั้นนำเนี่ย ยังไงก็สูงกว่าผลประโยชน์ของมวลชน มันถึงได้เกิดเรื่อง Thai oil มันถึงไม่เกิดรัฐบาลอานันท์ ซึ่งดูแล้วโหย ดีหมดเลย Thailand อยู่เต็มไปหมด แต่ว่าไม่สิ Aristocrat ทั้งนั้นนะ 
Aristocrat มีความหมายที่ว่า ได้รับความสำคัญในชีวิตมาโดยเหมาะสม ซึ่งเราว่าไม่ได้ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่ลูกชาวบ้านกับหลานขุนนาง มันคิดอะไรไม่เหมือนกันหรอกครับ เวลาแก้ไขปัญหานี้ คุณทักษิณก็ไม่ได้เป็นลูกคนจน ชินวัตรไม่ใช่ตระกูลจนนะฮะ แต่คุณทักษิณเนี่ยเกิดขึ้นในซีกคนตระกูลชินวัตรที่ไม่รวย แล้วก็มีความสามารถช่วยได้เฉพาะให้มีการศึกษา แล้วคุณทักษิณก็ไปต่อยอดเอาเอง ขายของ ขายคอมพิวเตอร์ ขายอะไร ก็ไปเจอกับน้องอ้อ ซึ่งรักกันตั้งแต่เป็นเพื่อน.... (ฟังไม่ชัด) ท่านรักกัน ถามว่าคุณทักษิณ กับคุณหญิงพจมาน อยู่กันยังไง เหมือน..... (ฟังไม่ชัด) ไม่เหมือน เพราะว่าท่านนายกฯ เนี่ย มี..... คุณหญิงมาก คุณหญิงเป็นจิตวิญญาณ แล้วคุณหญิงเป็นคนที่ดูแล .....(ฟังไม่ชัด) แล้วท่านนายกฯ ลุยไปข้างหน้า คุณหญิงพจมานหว่านตามหลัง อยู่กันแบบนี้ เป็น Life partnership ถามว่
ารักหรือไม่ผมไม่รู้ ผมไม่ได้อยู่ใกล้ขนาดนั้น ไม่ได้อยู่ในห้องนอน แต่ว่าผมรู้แต่ว่า ท่านมี.... (ฟังไม่ชัด) เวลาท่านพบข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับประเทศเช่นต้องแก้ปัญหาเรื่องได้หรือไม่ได้ ท่านโทรไปสวดกับคุณหญิง ตรงนี้พ่ออย่างนี้ พ่ออย่างนั้น ท่านเป็น Family man ไปแก้ปัญหาอยู่ อย่างนู้น ภาคใต้ กำลังแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องฉุกเฉินนะครับ เป็นกำลังคุยกันเต็มที่ กำลังระดมสมองเพื่อจะแก้ปัญหาเรื่อง ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่บน Laptop มืดไปหมดทั้งบริเวณ ดับไฟที่หอ นี่มันจะดับเฉพาะข้างล่าง ก็ไม่อยากให้ข้างล่างเห็นง่ายจนเกินไปนัก ในความมืดนี่ ท่านก็พูดขึ้นมาว่า เออวันนี้น้องอิ้ง ถอนฟัน วันพรุ่งนี้น้องอิ้งถอนฟัน ผมก็ได้ยินเสียงท่านในความมืด ผ่านความเงียบมาเลยว่า พ่อโทรมาให้กำลังใจ พรุ่งนี้ไม่เป็นไรนะลูกนะ เจ็à¸
šà¹à¸›à¹Šà¸šà¹€à¸”ียว แล้วก็แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 
เพราะฉะนั้นเนี่ย ท่านถึงเป็นคนที่ ไม่กลัวอะไรเพราะว่าท่านถอยหลังท่านก็มีครอบครัว ท่านไม่ใช่คนว้าเหว่อย่างคุณเปรม (เสียงตบมือ) พฤติกรรมคนเนี่ยมาจากครอบครัวเยอะ บางคนที่รู้สึกว่าถอยไปแล้วมันยวบยาบ มันไม่มีอะไรพิงไง มันไม่กล้าไปข้างหน้ารุนแรง มันต้อง Play safe มันต้องปลอดภัยไว้ก่อน แต่ถ้าหากข้างหลังมีครอบครัวจับ แล้วบอกเรื่องชาตินี้มีเมียคน ลูก 3 คน พอแล้ว ก็ ... (ฟังไม่ชัด) เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันเป็นปัจจัยซึ่งมันชี้ว่า ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมหัวดี ท่านก็มีเรื่องคำพูดของท่าน ท่านก็มีเรื่องของการสวนคน ท่านมีเรื่องของการที่ไม่มีความอดกลั้นต่อคนที่แกล้งโง่ คือความจริงเนี่ยท่านเอาใจนิดเดียวก็จบ แต่ว่าท่านไม่ได้จริง ๆ ท่านบ่นแกล้งโง่ อยากจะด่า (เสียงหัวเราะ) ซึ่งคนบางคนเนี่ย เขาก็โกรธชั่วชีวิตเพราะเขาคิดว่าเขาสำคัญมาก พอ
ไปด่าเขานิดเดียวเขาโกรธ โอ้โห โกรธจนตาย ... (ฟังไม่ชัด) นี่ก็โกรธกัน โกรธเรื่องเล็กทั้งนั้นนะครับ โกรธเรื่องเชิญมาบังคับคดีที่นั่น เชิญแล้วให้มานั่งข้างล่าง เขาโกรธเรื่องแบบนี้ ... (ฟังไม่ชัด) ทีนี้คนทำงานจะมีเวลาที่ไหน มานั่งเอาใจเล่า ถ้าอย่างนั้นจัดงานก็นั่งกับพื้นกันให้หมด จะได้สบายใจ ปัญหามันก็คือคนทำงานเนี่ยไม่มีเวลาเอาใจ มันก็เกิดการชนกันระหว่างคนทำงานกับคนว่างงาน อันนี้เป็นการชนกันครั้งที่ 2 ที่ทำให้เกิด 19 กันยา 49 ผู้ใหญ่บางคนว่างงานเหลือเกิน นั่งคิดเรื่องที่เราคาดไม่ถึงได้ทุกวัน เพราะว่าคนเราเนี่ย ถ้าไม่ Fill ความคิดด้วยงานเนี่ย มันจะมีความฟุ้งซ่าน แล้วความคิดมันจะเตลิด ห่วงคนนั้น ห่วงคนนี้ แล้วโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว ฟุ้งซ่านแล้วไม่พอ โทรไปกวนเขาอีก (เสียงหัวเราะ ตบมือ) เขาทำงานอยู่ โทรฟุ้งซ่าน โอ๊ย นึกà¸
 à¸²à¸žà¸­à¸­à¸à¹„ม๊ฮะ มันก็ขยายเซลล์ไปสู่ระดับชาติ ไอ้คนนึงทำงานบอกโอ๊ย โทรมาอีกแล้ว จะเอานั่นเอานี่ แล้วบางทีเนี่ยแหม ผมก็ขอโทษ ถึงวันนี้ตั้งใจจะเปิดหมดเปิดไม่หมดครับ บางอย่างมันต้อง รอ เดี๋ยวผมจะไปอยู่ที่ ... (ฟังไม่ชัด) (เสียงตบมือ) ไม่ใช่ไม่อยากอยู่นะฮะ แต่ว่า มันก็มีภารกิจทางบ้านอยู่ บ้านของพวกเราทุกคนเนี่ย ต้องทำ ก็เลยต้องพยายามกลับไปให้ได้ แล้วกลับไปแล้วก็อยู่ในที่ที่ทำอะไรได้ เพราะฉะนั้นเนี่ย ประเด็นก็คือเล่าไปแล้ว แต่อยากว่าบางครั้งผมก็ปวดหัวแทนท่าน กำลังนั่งประชุมเรื่องสำคัญ ตัดสินบ้านเมือง ต้องไปรับโทรศัพท์แก้ไขปัญหางี่เง่าทั้งหมด แต่เผอิญที่ต้องเอาใจ เกิดจะเอานั่นเอานี่ เกิดจะได้เดินทางไปไหนแล้วต้องการจะมีกระเป๋าไปด้วย 40 ใบเพียงแต่ว่า ต้องออกจากที่ประชุมแก้ไขปัญหาความยากจนไปเคลียร์กระเป๋า กลายเป็น potter
 เฉย ๆ ซะงั้น นายกฯ ทักษิณ เอาหล่ะ ผมไม่เติมประธานของประโยคนะครับ ขอเล่าแต่ (ฟังไม่ชัด) มีแค่กริยา กับกรรม ซึ่งมันเป็นกรรมอันแสนหนักเท่านั้นเอง มันก็เป็นนายกฯ ไทยเนี่ย มันเหนื่อยอย่างที่บอกไงครับ ผมเห็นแล้วก็เหนื่อยแทน แต่ท่านเป็นคนไม่เหนื่อย คือท่านเป็นคน Train ตัวเอง ทำงานได้เอง ได้เยอะ คือเป็นคนชอบ เป็นคนชอบทำงาน คุณทักษิณ เป็นคนไม่คิดว่างานเป็นงาน มีความรู้สึกว่าสนุกกับการแก้ปัญหา เห็นปัญหามานี่ชอบ มันเลยกลายเป็น (ฟังไม่ชัด) เช่นว่าเก่งไปซะหมด วิเศษมาจากไหน คนอื่นเขาเก่งเหมือนกัน อ้าว ก็เก่งไปสิ แต่วันนี้เขาเป็นนายกฯ อยู่ ถูกมั๊ยครับ เขาเก่ง เขาไม่ได้ทำ ก็ไปเก่งอยู่แถวไหนเล่า ทำไมไม่มาช่วยกัน ก็บอกแล้วว่า คนที่ชอบนั่งด่าเรื่องการเมือง เคยคิดว่านักการเมืองโง่ ก็ต้องคำนึงสัจธรรมนะครับ ถ้าคุณไม่ลงการเมืองเอง คà¸
¸à¸“มีความเสี่ยงที่จะปกครอง เป็นคนที่โง่กว่านะ ถ้าคุณแน่คุณต้องลง แต่ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเปิดโอกาสให้คนที่อาจจะโง่กว่าคุณทำงาน ถ้าคุณมาวิจารณ์เขา มันเป็นสัจธรรม เพราะฉะนั้นเนี่ย นายกฯ ก็เก่งอ่ะ คือผมพูดอย่างงี้ดีกว่า คือนายกฯ เก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่นายกฯ มีหน้าที่ต้องเก่ง คือถ้าไม่เก่งก็ต้องพยายามเก่ง เก่งให้ได้ เพราะนายกรัฐมนตรี (ฟังไม่ชัด) คนเขาเก่งกว่า 
สมมติว่าในที่ประชุมครม. เนี่ย เกิดง่วง หนังตาตกหลับ งก ๆ อย่างงี้ ครม.จะผ่านมติอะไรไม่รู้ ไม่ได้ ท่านถึงได้กิน Control ก่อน ผมเองเนี่ย ขอร้อง ท่านขอร้องแล้ว ขอร้องอีกบอกว่า ท่านครับขอถ่ายทอดการประชุมครม. อยากให้คนเขาเห็น ไม่ยอมให้ผมเป็นเดือนเลย จนในที่สุดก็ยอม เพราะครม.มันไทย ๆ มันพูดถึงพาดพิง ก็อยากให้รู้ว่า Serving ยังไง อยากให้คนเขาเห็น แล้วผมก็อยากให้เป็น Good PR ก็ไม่มีทางที่จะอธิบายคุณทักษิณได้ ยกเว้นจะเห็นคุณทักษิณทำงาน เพราะคนส่วนใหญ่ 80% ตัดสินคุณทักษิณยังไม่ใช่ตอนทำงาน ตัดสินตอนให้สัมภาษณ์นักข่าว ซึ่งมันผิด มันไม่ใช่คุณทักษิณทั้งหมด มันเป็นทักษิณที่กำลังนับหัวนักข่าว คนละทักษิณกัน ซึ่งผมก็ยอมรับว่าท่านก็ชอบนับจริง ๆ บางทีแกประชุมอยู่ แต่เราก็พยายามอยากให้ท่านเจอนักข่าว รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี ท่านออกไปเข้าห้องน้ำแป๊บà¹
€à¸”ียวกลับมา บอกผมโอเค ไปเคลียร์ด้วย ไปด่ามันไว้นั่น อย่างงี้ก็มี (เสียงหัวเราะ) มันอย่างงี้ คือท่านเป็นคนที่ (ฟังไม่ชัด) ในแง่ของการทำงาน แต่ไม่ชอบคนที่แกล้งโง่ สิ่งที่ผมสังเกตได้คือคนแกล้งโง่นี่ไม่ชอบเลย ซึ่งในบางระดับเนี่ย เขา เล่นเกมแกล้งโง่ ทำเป็นไม่รู้ ทำเป็นถามเพื่อที่จะให้ตอบคำตอบที่ไม่อยากฟัง ท่านก็เข้าใจรู้ แต่ก็ตอบให้มันเจ็บใจเล่น (เสียงหัวเราะ) ก็เหมือนกับตอนที่มีการพูดคุยกัน อาจจะเป็นเรื่องนี้ แต่ประเด็นก็คือว่า คุณทักษิณเองก็ ก็เริ่มจะว้าเหว่ ทั้งหมดก็มาจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จตัวเอง ไม่มีเวลาสะสมคนที่ ที่หยั่งรากลึกในทางการเมือง นั่นคือปัญหาของพรรค ไทยรักไทย 
ไทยรักไทยเนี่ยเปรียบเทียบกับประชาธิปัตย์ ผมต้องขอพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยนะครับ คุณคมชาญ เพราะไม่อย่างงั้นมันไม่เข้าใจ ประชาธิปัตย์กับไทยรักไทย ต่างกันตรงที่ว่า ไทยรักไทยเนี่ย ทำงานเก่ง แต่ไม่มีเดียงสาทางการเมือง ประชาธิปัตย์เป็นจอมยุทธทางการเมือง แต่ไม่ทำงาน (เสียงหัวเราะ ตบมือ) 2 พรรค ที่ฟัดกันอยู่นี่ มีลักษณะไม่เหมือนกันอย่างนี้ ซึ่งมันอ่อนกันทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าไทยรักไทยดีกว่าประชาธิปัตย์นะครับ เพราะคุณเป็นพรรคการเมืองจากการเลือกตั้ง แต่คุณอ่อนการเมืองเนี่ย คุณก็อยู่ไม่ได้ ประชาธิปัตย์เหมือนสร้างฐานใหญ่แข็งแรง เหมือนสร้างเจดีย์ แล้วไม่สร้างซะที คุณทักษิณเอาเครนยกเจดีย์มาวางแล้วจึงสร้างฐาน (เสียงหัวเราะ) ก็นี่คือบทเรียนสำคัญ ไม่ใช่มาพูดการเมืองเล่น แต่ว่าคนรุ่นแรกต้องแก้ไขปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นพร
รคไหนที่มาใหม่ก็ตาม ซึ่งพวกเราที่ยังอยู่ ผมด้วย ก็ต้องแก้ไขปัญหานี้ว่า คนเขามีความหวังในทางการเมือง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะประสานความต้องการที่แตกต่างของคน แล้วทำออกมาเป็นนโยบายให้ได้ ซึ่งผมเห็นคุณทักษิณทำมา ผมก็เริ่มทำเป็น เริ่มเห็น เป็นโฆษกรัฐบาลเนี่ย ยิ่งกว่าที่ผมเรียนปริญญาเอก ผมเรียนปริญญาเอกเนี่ย คิดว่าสุดยอดแล้ว ทำท่าจะกึ่ม ๆ เหมือน ดอกเตอร์ประเทศไทย ผมเห็นดอกเตอร์เป็นไม่ได้ คุณต้องการเรียกอาจารย์ (เสียงหัวเราะ ตบมือ) ดอกเตอร์ที่ฉลาดเลิศในเรื่องท่านเองเยอะ แล้วโง่เรื่องอื่นก็ถมไป (เสียงตบมือ) ก็ดอกเตอร์เขาเป็นอย่างงั้นจริง อ้ะ เขาฉลาดลึกลงไปเรื่องหนึ่ง Discipline ของเขา แต่จะให้เขาชำนาญเรื่องอื่นได้ยังไง แต่คุณไปเรียกเขาว่าอาจารย์ เขาเลยต้องทำเก่งตามไปด้วย (เสียงหัวเราะ) คนเลยเข้าใจผิดว่าดอกเตอร์เก่ง à¸
–ึงระดมปริญญาเอกมาทุกเรื่องเลย คือดอกเตอร์ทางด้านกีฏวิทยา ก็เก่งเรื่องแมลงไปสิครับ จะมาทำเรื่องก่อสร้างทำไมเล่า แต่ถ้าเป็นปริญญาเอกวิศวะ ก็อย่าไปห่วงเรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงเป็ด ก็ต้องถามชาวบ้านที่เลี้ยงเป็ด มันเก่งกว่า ถ้างั้นเนี่ย มันเป็นเรื่องของการแบ่งงานกันทำ ประชาธิปไตย มันวิเศษตรงนี้ คือไม่มีใครเป็นคนเหนือคน ประชาธิปไตยคือการไหว้วานกันทำแล้วส่งตัวแทนไปทำหน้าที่ชั่วคราว รัฐบาลทุกรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย เป็นรัฐบาลชั่วคราว เพียง 4 ปีแล้วเลิก เพียง 8 ปีแล้วเลิก ในสหรัฐฯ ยังมี Discussion เกี่ยวกับ Determinate ใช่มั๊ยครับ แต่เผอิญในบ้านเรายังไม่ได้พูดเรื่องนี้ ก็ควรก็จะมี Determinate ว่าไม่เกิน 2 ไม่เกิน 3 Term บางคนก็ว่าเอ๊ะ อย่างนั้นก็ไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วแต่ เก็บประธานาธิบดี President ต้องมี 2 Term ใช่มั๊ยฮะ ไม่เกิน 8 ปี
ทีนี้ประเด็นกลับมาเรื่องของเราคือ ถามว่าทำไมตอนนั้นเนี่ย มันถึงออกมาในรูปแบบนั้น คือคุณสนธินำทาง คุณสนธิจีนนำทางคุณสนธิแขก 2 มา มันเป็นความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ต้องบอกว่าไม่ใช่ ทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้สนิทกัน คุณสนธิน่ะสนิท คุณสนธิ ลิ้มฯสนิทกับคุณทักษิณ เป็น Buddy กันก็ว่าได้ เคารพความคิดซึ่งกันและกันมาตลอดชีวิต ถึงได้ดูแลเป็นพิเศษ คำว่าพิเศษหมายความว่าให้ใกล้ชิด ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ แล้วคุณสนธิ บุญยรัตกลินเนี่ย ไม่เคยรู้จักเลย เพราะคุณสนธิ บุญยรัตกลินเนี่ยเป็นนายทหารที่อยู่ในไลน์ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ คุณสุรยุทธ์น่ะเป็นทหารโดดเด่น เพราะว่าเป็นทหารยศสูงที่พูดภาษารู้เรื่องคนแรก ๆ ของเมืองไทย คือทหารใหญ่หลายคนไม่รู้ภาษาเลย แต่คุณสุรยุทธ์พูดได้พอฟังได้ประโยค ก็เก่งขึ้นมาโดดเด่น พอคุณสุรยุทธ์เก่
งขึ้นมาเนี่ย ในหน่วยสงครามพิเศษ สนธิบังเนี่ย อยู่ใน ... ป๋า เป็นลูกน้องคุณสนธินะฮะ ที่กำลังนับกันอยู่เนี่ย นายลูกน้องเก่า เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณสนธิ บุญยรัตกลินจึงขึ้นมา แล้วแกก็ไม่เคยมีลักษณะ High profile มีเมียซักกี่คนก็ไม่มีใครรู้ ไม่สำคัญพอที่นัดดา จะซุบซิบเรื่องนั้น (เสียงหัวเราะ) เราไม่เคยรู้เรื่องการแต่งงานโดยจดทะเบียน 2 ครั้งว่าจริง ๆ ภรรยามีมากกว่านั้น แต่เผอิญไปจดแค่ 2 นะฮะ คือจดตอนเป็นร้อยเอกครั้งนึง แล้วมาจดตอนหลังอีกครั้งนึง วันที่เห็นจะมีหลายท่านบอกผม ข้อมูลเมื่อกี้ ซักประมาณ 15 นาที ผมยังไม่รู้ว่า ทาง ป.ป.ช. จะเปิดเผยข้อมูลชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.สนธิ ในฐานะที่มารับตำแหน่งรองนายกฯ ได้ครบเดือนอย่างไร ท่านมาบอกผมแล้วว่าวันที่ 27 หรือไงเนี่ยครับ เดือนนี้ เขาจะเปิดเผยให้ทราบ ผมอยากดูมากเพราะว่า ถ้าพà
¸¥.อ.สนธิ ไม่ครบ 2 เมีย ก็ถือว่าชี้แจงไม่ครบ ก็มี 2 ทะเบียนนี่ ก็ต้องชี้แจงเมียให้ครบเพราะว่าเป็น Twin Action (เสียงหัวเราะ) ใช่มั๊ย แต่พอแถลงครบ 2 เมีย ผมก็จะตามไปราวีแกอีกว่าท่านจดทะเบียนซ้อน ก็บอกไว้ล่วงหน้า (เสียงตบมือ) คือไม่อยากไปยุ่งกับความสุขของใคร แล้วได้ยินว่าปกครองสภาภรรยาได้ดีพอสมควร คือมีศิลปะในการใช้ภรรยารู้สึกว่า ตัวเองได้เค้กชิ้นที่ใหญ่ที่สุดไป เป็นศิลปะสูงสุดในการทูต ตอนที่ผมเข้ากระทรวงต่างประเทศ ในกระทรวงครั้งนั้นสอนเข้าไปกัน 5 คน ตอนนั้น พวกคุณจำไว้ นักการทูตในอนาคตทั้งหลาย ศิลปะการทูตคือ แบ่งเค้กชิ้นเท่า ๆ กันให้ทุกคน โดยที่ให้คนที่รับไปรู้สึกว่าตัวได้ชิ้นที่ใหญ่ที่สุด นั่นหน้าที่คุณตลอดชีวิต ทุกคนจำไว้ เพราะคิดว่าคุณสนธิ บัง แกดูแลใช้ศิลปะการทูตในบ้านได้ดี ภรรยาแรกก็ยังรัก รับส่งอาหาร ไม่ก็ไปรับ à¸
„ือภรรยาที่ออกหน้านี่คือ ที่เขาเรียกว่า ที่รัก ซึ่งมันจะชื่อ ฟาระห์ คือคนที่เป็นนายกสมาคมทหารบก ความวุ่นวายใน ในครอบครัวไม่รู้คนไหนเนี่ย มีผลอย่างมาก ทำให้คุณสนธิ บุญยรัตกลินเนี่ย เป็น 1 ในผู้บัญชาการทหารบกที่ภรรยาไม่เป็นคุณหญิง ลองนึกถึงคนไข้นี่ยุ่งเหมือนกันนะ จะให้ยังไงล่ะ หญิงใหญ่ หญิงน้อยเหรอ (เสียงหัวเราะ ตบมือ) จะให้ยังไง 
เพราะฉะนั้นเนี่ย ก็เป็นเรื่อง แต่ว่าผมไม่ได้เป็นห่วง เพราะว่าเป็นเรื่องของท่าน แต่ที่สำคัญก็คือว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เนี่ย เป็นผู้ที่เข้ามาแล้วเนี่ยวางประเด็นของการสืบทอดอำนาจไว้ชัดเจนที่สุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานคมช. ท่านทราบดีแล้วเรื่องเอกสารลับ ผมขอพูดเรื่องเอกสารลับ กับเรื่องการมาเป็น คตส. คือประธานเลือกตั้งเสร็จแล้วจบแล้วจะเป็นตัวเอง เรื่องเอกสารลับ ตอนนี้ก็เริ่มตะแบงกันว่าจริงหรือปลอม ตอนแรกสุดออกมาไม่เห็นหน้ากาก พอคุณสมัคร เปิดเผยปั๊บ คุณสุรยุทธ์บอกว่าเอกสารจริง คุณสนธิ บอกเอกสารปลอม อีก 3 วันต่อมา คุณสนธิ บอกว่าสงสัยจะจริง สุรยุทธ์บอกสงสัยปลอม (เสียงหัวเราะ) คือการโกหกเนี่ยมันต้องจดเอาไว้บ้าง จำไม่ได้ คือโกหกแล้วจำแต่เรื่องจริง ไม่มีทาง ว่ามันจะพูดเหมือนกันหรือเปล่า แต่พอโกหกต้องจำวà
¹ˆà¸²à¸§à¸±à¸™à¹„หนด้วย งานนายกฯ เยอะจะตายจะมานั่งจับโกหกพี่บัง เพราะฉะนั้นเนี่ย ก็เลยทำให้เรานั่งหัวเราะกัน แต่ขณะเดียวกันเอกสารลับมันก็รุนแรงมาก ผมคงไม่ลงรายละเอียดเดี๋ยวจะยาว แต่มีการพูดถึงพรรคการเมืองชัดเจน มีการใช้ข่าวลือชัดเจน ตอนนี้ กกต. กำลังสอบสวนอยู่ ทำท่าอีกแล้วว่าเอกสารปลอม ผมก็เลยขำ วันนั้นก็ยังพูดในรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ว่า ก็ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อน พอรู้แล้วว่ามันรั่วจากไหน ตกลงคิดว่ามันปลอมหรือว่ามันจริงเล่า ทีโกหกกันจนไม่ออกันไปให้เจริญ เวรกรรมจริง ๆ คิดว่าบริษัทเขาไล่ออก ไม่อยู่แล้ว เลิก โกหกไม่ Collaborate กันน่ะ นึกออกมั๊ย ก็คนอื่นเขามาบอกรู้แล้วว่ามาจากไหน ตกลงที่เขียนไว้ ปลอมเร๊อะ ถ้ามันปลอมอ่ะ เพราะฉะนั้นพอที่คุณอนุพงษ์พูดว่ามันรั่วตรงไหน ก็ต้องจริงถูกมั๊ยครับ เà¸
žà¸£à¸²à¸°à¹€à¸›à¹‡à¸™à¹€à¸­à¸à¸ªà¸²à¸£à¹ƒà¸™à¸à¸­à¸‡à¸—ัพถูกมั๊ยครับ เมื่อเป็นเอกสารกองทัพก็ต้องผิดกฎหมายกกต. ใช่มั๊ยครับ ก็เท่านั้นน่ะเมืองไทย แต่ว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่ไม่เคยมีอะไรเป็นตาม common sense เพราะฉะนั้นในเรื่องที่เป็นไปตาม common sense คือเรื่องก็ยังไม่จบซะที ตอนนี้ก็สืบสวน ผมก็กะว่ามันจะสืบได้ยังไง (เสียงหัวเราะ) แล้วก็เหมือนเมืองไทยหลายเรื่องซึ่งเราพยายามจะแก้ไข เมืองไทยเป็นเรื่องที่มีประเด็นข่าวเยอะ แต่ไม่มีตอนจบ เพราะตอนเป็นข่าวเขาพูดกับนักข่าว ตอนจบก็เกี้ยเซี๊ยะกัน ก็เลยไม่บอกนักข่าวไม่รู้ว่าจบ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่เค้าเรียกว่าคลื่นกระทบฝั่ง คืน The Story (that) has no ending หรือว่า ending the seriously นี่คือนิยายไทย ซึ่งเราต้องแก้ เพราะไม่งั้นเราไม่รู้ว่ามันจบได้ไง แต่ละเรื่องแต่ละราว 
ทีนี้ที่ผมอยากจะเล่าเพิ่มเติมเรื่องเอกสารลับเพราะพล.อ.สนธิ นี่ท่านเป็นประธาน คมช. ท่านลงนามในคำสั่งวันที่ 28 กันยายน 50 แล้วท่านรับตำแหน่งรองนายกฯ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 50 ห่างกันเพียง 3 – 4 วัน อนุมัติเอกสารด้านโน้น แล้วก็เป็นรองนายกฯ ด้านนี้ อีกไม่กี่สัปดาห์ได้เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียงระหว่างการเลือกตั้ง คนไม่เห็นนะครับ ไม่ต้องไปนั่ง ใช้อัจฉริยะที่ครอบออกว่าตัวเองตีลูก Response ทางด้านโน้น แล้วก็วิ่งมารับทางด้านนี้ใช่มั๊ย เพื่อที่จะได้ชื่อว่าไม่ต้องเป็นประธาน คมช. แล้ว คมช.เองเนี่ย พอร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วเนี่ย ไม่รู้จะอยู่ทำไมเหมือนกัน คมช. เองก็ควรจะลาออก หรือแม้จะเขียนว่ายุบไม่ได้ ก็ลาออกไปทั้งคณะสิ มันก็ค้างอยู่แต่มันก็กลายเป็นบ้านร้างน่ะ มันก็ไม่มีหน้าที่ เพราะการมี คมช.อยู่มันบ่อนทำลายà
¸šà¸£à¸£à¸¢à¸²à¸à¸²à¸¨à¹ƒà¸™à¸à¸²à¸£à¹€à¸¥à¸·à¸­à¸à¸•à¸±à¹‰à¸‡ เพราะคมช. เป็นคนรัฐประหาร แล้วคนรัฐประหารเองเนี่ยส่งผู้แทนที่เป็นอดีตประธานมาบอกว่าจะจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม นึกออกมั๊ยครับ คือถ้าเรามีครัวเป็น Serial killer เนี่ย เราก็ไม่อยากให้จับมีดเหมือนกันนะ เพราะว่าแกเคยจับแล้วจับอย่างอื่น วันนี้แกจะมาหั่นเนื้อ มันก็เอ ท่าจะไม่หันเฉพาะเนื้อ เพราะฉะนั้นเนี่ยการยึดอำนาจมันก็เหมือนเป็น serial killer มันเป็น ๆ คือการรัฐประหารในความรู้สึกผมเนี่ย มันคืออาชญากรรมที่ร้ายแรงและใหญ่ที่สุดของประเทศ เนื่องจากว่าการกระทำอย่างอื่นมีผลต่อบุคคล เพียงบุคคลเดียวหรือเป็นกลุ่ม แต่การรัฐประหารมีผลต่อคนทั้ง 63 ล้านคน และคนไทยในต่างประเทศ ที่จะถูกกระชากสิทธิ์ และเสรีภาพขั้นพื้นฐานไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นการรัฐประหารจะไม่มีโทษไม่ได้ ผมดีใจที่ไม่ต้องพูดในนามพรรค เà¸
žà¸£à¸²à¸°à¸žà¸£à¸£à¸„ผมเองก็มีความเห็นที่แตกต่าง เกิดจะมาให้อภัยกันตอนนี้ จริง ๆ แล้วเนี่ย มันต้องมีต้นทุนในการรัฐประหาร ถ้าหากยึดอำนาจแล้วรวยขึ้น มีอำนาจขึ้น ตอนลงเนี่ยลงบนฟูก สบายมีพรหมแดนอยู่ อีก 10 ปีเขาทำอีก ไม่คิดเหรอครับ (ฟังไม่ชัด) เอาอะไรก็เอาได้ ทำอะไรก็ทำได้ มันเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ชั่วร้าย สำหรับประเทศไทย เพราะฉะนั้นวิธีการแก้กฎ คือพวกทำรัฐประหารต้องมีต้นทุน ต้องมี cost ทางสังคม เพราะฉะนั้นเนี่ย ผมเองก็จะเดินหน้าในการที่ต้องเพิ่มและสร้างโทษสำหรับพวกรัฐประหาร ก็บอกตั้งแต่บัดนี้ (เสียงตบมือ) ถ้าหากไปบอกตอนนั้นเท่ากับไปล้างแค้นถูกมั๊ยครับ บอกซะตอนนี้ตอนที่จะทำก็ไม่ได้อีก บอกไว้เลยว่าตั้งใจจะทำ แล้วพอถึงตอนนั้นก็อย่ามาบอกว่ามันคิดเดี๋ยวนั้น เพราะมีอำนาจตอนนั้น คิดตั้งแต่ตอนนี้ นะฮะ แล้วโทษอันนั้นจะไม่ใช่ว่à
¸² ใครคิดคนใดต้อง จะต้องเปิดประชาพิจารณ์ ต้องมี Public hearing ในระดับชาติ ถ้าเผื่อว่าเราได้ทำจริง ๆ พี่น้องจำได้ต้องให้ hearing ให้ Scope (เสียงตบมือ) ถ้าได้ทำเมื่อไหร่ทำแน่ แล้วขอให้รวมกันไว้เพื่อที่ว่าจะได้คุยซิว่า Cost ของการยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญมันเป็นยังไง ซึ่งผมไม่อยากจะชี้ เอาว่ามันเปิดกว้าง แล้วจากนั้นก็มามีเรื่อง คตส. ที่มาก่อตั้ง เพราะฉะนั้นเนี่ย ผมถึงได้บอกไว้อย่างงี้ครับ ผมบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า รัฐบาลทักษิณไม่ได้วิเศษที่สุด แต่ถ้าหากว่า ต้องช่วยอัดไว้ให้ครบ เดี๋ยวจะไม่ครบขั้นตอน คือประเด็นก็คือว่า เรากำลังจะก่อรูปประเทศกลับคืนมาใหม่ เพราะมันเสียไป การรัฐประหารเนี่ยมันมี Cost สูงมาก เพราะว่ามันทำลายความเชื่อว่า ในอนาคตจะไม่มีอีก 
เมื่อรัฐประหารซะแล้วคราวนี้จะไม่มีรัฐบาลเลือกตั้งไปบอกกับใครได้เลยว่า สัญญาจะไม่มีเลือกตั้งอีก คุณรู้ได้ยังไง นี่คือบัญหา creditability ทำให้คนในอนาคตคบกับเรานั่นเนี่ย จะคบแบบเผื่อใจ และในที่สุดแล้วเขาก็จะดอดไปคุยกับข้าราชการ ไปคุยกับนายพล ซึ่งหลายคนไม่รู้เรื่องเลยว่า พ่อค้าที่วิ่งกับตัวเองอยู่เนี่ย มันให้เปอร์เซ็นต์สวยงามจริง ตัวเองก็ได้มีเงินหลังเกษียณจริง แต่มันก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศขนาดไหน อย่างตอนนี้รัฐบาลทักษิณให้แนวว่าเราไม่ต้องผูกขาดซื้ออาวุธกับสหรัฐฯ ได้มั๊ย สหรัฐฯ ก็โกรธ เรื่องสหรัฐฯ นี่ก็อีกเรื่องนึงมั๊ยครับ สหรัฐฯ เนี่ยไม่ได้เกลียดคุณทักษิณ แต่สหรัฐฯ เลือกคุณเปรม มาตั้งนานแล้ว ตัวแทนของ CIA ระดับสูงเนี่ย เมื่อเดินทางถึงเมืองไทย ไป curacy ขอคุณเปรมก่อนนายกฯ ทุกครั้ง สหรัฐฯ เขาเลือกคุณเปรมเขาเลือกไ
ว้สู้กัน แล้วก็เชื่อคุณเปรมเป็น broker เพราะฉะนั้นเข้าคุณเปรมดีกว่า แล้วคุณเปรมก็มาบังคับคุณทักษิณได้อีก เขาคิดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย สหรัฐฯ เขาก็บอกว่าผลประโยชน์แตกต่าง เขาเคยบอกว่า เขาสนับสนุนทักษิณเต็มที่ไม่ได้เพราะว่าเขาเปลี่ยนม้าให้เป็นลาไม่ได้ (เสียงหัวเราะ ตบมือ)
ผมก็สนิทกับใครหลายคนนะครับ ทางฝั่งสหรัฐฯ มีตั้งแต่มิลาน จะไป DC เพราะว่าผมจบจาก John Hopkins School ที่ DC คือ site ได้ site เนี่ย โรงเรียนมันเล็กมาก อยู่ที่ ................. มันเป็นโรงเรียนที่ผมตั้งใจไปเรียนเพราะว่าผมจะได้พบกับพวกที่จบแล้วไปอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ไปอยู่ CAA แล้วก็ไปอยู่กระทรวงกลาโหมเพราะว่า มันจะได้มีเพื่อนคอย คอยคุยกันไว้บ้าง เพราะถึงเวลามันไม่ใช่ผู้นำติดต่อกันอย่างเดียว มันระดับลูกตะโปกอย่างพวกเราไปคุยด้วย แลกเปลี่ยนความเห็นกัน ในวงเล็ก ๆ ได้คุยกัน ก็มีเพื่อนแยะแยะ ตอนนี้เพื่อนก็อยู่หน้าห้อง เพราะพวกที่เรียนด้วยกันก็มี 
เพราะฉะนั้นกลับมาถึงเรื่องนี้เนี่ย ผมคิดว่าอนาคตมันจะเป็นอย่างนี้ครับ ผมคิดว่าการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม เนี่ยมีความสำคัญ โอกาสที่จะเลื่อนหรือล้มเลือกตั้งเนี่ยมี ด้วยเหตุที่เราก็ไม่อยากจะคาดหวังสูง แต่ขณะเดียวกันเนี่ย ผมก็ฝากไปด้วยเพราะรู้ว่าฝันอยู่ ถ้าหากว่าเลื่อนเลือกตั้ง แล้วล้มเลือกตั้งโดยที่ไม่สามารถโน้มน้าวมติมหาชนไทยได้ จลาจลได้นะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เนี่ย ต้องคิดให้ดี 23 ธันวาคม เนี่ยมันเหมือนคนวิ่งมาราธอน กับคนวิ่ง ........... แล้วมันมาเจอกัน ตรงนั้นน่ะ เจอแล้ว บางคนจะได้บอกว่า เอ้อ จะได้ประสานแล้วเดินไปพร้อมกัน บางคนก็เกิดไม่ชอบกันก็เดินคนละเส้นทางต่อ แต่ทุกคนนัดพบกันที่ 23 ธันวาคม 50 ถ้าหากจู่ ๆ ไอ้ Dating place มันมีปัญหาขึ้น มันจะทำให้โอกาสที่จะกลับมารวมกันนี่มันหมดไป แล้วต่างคนจะต่างไปของตัวเอง ซà¸
¶à¹ˆà¸‡à¹„ม่มีใครรู้ว่าจะกลายเป็นอะไร อันนี้ผมต้องฝากไว้ เพราะฉะนั้นเนี่ย ให้เหตุผลกันให้ดี เตรียมการกันให้ดี 23 ธันวาคม 50 สำคัญ สำคัญเพราะมันเป็นที่นัด Date กัน ของคนที่ไม่ชอบกันเคยมีปัญหากัน แล้วตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องอยู่ร่วมกัน เผด็จการกับประชาธิปไตย วันหนึ่งมันก็ต้องเลือกกันว่าประชาธิปไตย หรือว่าเผด็จการ แต่หากว่ามันยังเลือกไม่ได้ มันก็ต้องอยู่ในสภาพที่เรียกว่า peaceful consistence คือการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ต้องชอบกันหรอก แต่ต้องหาวิธีอยู่ด้วยกันให้ได้ เหมือนสามี ภรรยา บางคู่อยู่ด้วยกันมานาน คู่ที่รักกันก็โชคดี แต่คู่ที่ความรักหมดไปแล้วเหลือแต่ความผูกพัน นั่งรถกันไป 3 ชั่วโมงก็ไม่พูดกันเลย เวลาผ่าน ............... พูดกับคนจ่ายตังค์มากกว่าพูดกับคู่สมรส อย่างงี้ มันก็เรียกว่า peaceful consistence  คือไม่ได้อยากแยกกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใกล้
ชิดกว่ากันอย่างงี้ยังไง มันก็เลยอยู่ด้วยกัน แล้ว ๆ ถามว่าผูกพันมั๊ย มันเป็นห่วงกันอย่างที่สุด แต่ถามว่า Sweet มั๊ย อาจจะไม่ Sweet แต่เป็นห่วงกันที่สุด เพราะในเรื่องที่ out of ordinary เนี่ย เช่น หายไปไหน ตกใจ ตกใจเหมือนตำรวจ เพราะว่าการอยู่ของเขาคือการอยู่ข้างหลัง มันกลายเป็นอย่างงี้ไป 
เพราะฉะนั้นประชาธิปไตย กับอมาตยาธิปไตยเนี่ย ผมไม่ได้เรียกร้องว่าจะต้องมานั่งกัน แต่อมาตยาธิปไตยเนี่ย เปิดตาบ้าง เพราะว่าที่ผ่านมาประชาชนพูดชัด หยั่งเสียงประชามติรัฐธรรมนูญเนี่ย ใช้กลไกของรัฐแทบตาย ยังได้แค่นั้นน่ะ ใช้สุดขีดแล้ว บี้แล้วบี้อีก งบแล้วงบอีก ขู่แล้วขู่อีก ยังได้แค่นั้นน่ะ แล้วคุณคิดว่าประชาชนไม่มีความคิดของตัวเองรึไง เพราะฉะนั้นน่ะ จุดอ่อนของ Aristocrat เรื่องของอมาตยาธิปไตย เนี่ย คือคิดว่าประชาชนไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง คิดว่าประชาชนเป็นเบี้ยที่ขยับได้ แล้วก็กำนี่ไปสามเหลี่ยมนี้ แล้วเป็นอย่างงี้ ใต้ ตะวันออก ประชาชนเปลี่ยนแปลงได้ครับ แล้วประชาชนก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ที่ผ่านมาเนี่ย ที่นายกฯ ทักษิณได้รับความนิยมสูงเนี่ย ไม่ใช่เพราะนายกฯ ทักษิณ ทำดีมาก คือท่านก็ทำดีน่ะ แต่มันไม่ถึงที่สุด ที่ท่าà
¸™à¸”ูดีมากแล้วเป็นที่รักของคนเพราะอะไร เพราะอีกฝ่ายนึงไม่ได้ทำอะไรเลย (เสียงหัวเราะ ตบมือ) 
นี่แหละครับ ภาพมันถึง Contrast มันชัด ถ้าหากคุณทักษิณเนี่ย แข่งกับอีกคนที่มีนโยบายชัดเหมือนกัน จะสนุกกว่านี้ ผมเนี่ยเสนอเลย อย่าหาว่าท้านะครับ ผมขอเสนอเลย คนที่เห็นนโยบายตรงข้ามกับคุณทักษิณ เช่นทุนนิยมก็ไม่เอา ระบบตลาดก็ไม่เอา Liberal ทั้งหลายไม่เอา ผมขอเสนอให้ไปรวบรวมกันตั้งพรรคอนุรักษ์นิยมมาสู้กัน ไม่ใช่ท้านะครับ เลิกเป็น อีแอบซะทีดิ ออกมาสู้กันดิ พี่ยะ หลบอยู่ทำไม ไสช้างมาสู้กัน ออกมาสู้กันสิครับถ้าท่านคิดว่าท่านแน่ เพราะคนอย่างท่านน่ะ เอาสิ คุณทักษิณไม่ได้วิเศษอยู่คนเดียว แต่เผอิญพูดอยู่คนเดียว แล้วมันทำอยู่คนเดียว ผลมันเลยออกมาเป็นคุณทักษิณ จะแปลกใจกันแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ย มันก็ต้องพัฒนาระบบการเมืองกันต่อไป คือต้องมีทักษิณ หลาย     ๆ ทักษิณ แล้วมีทักษิณที่คิดว่าเป็น ทักษิณอนุรักษ์ ทักษิณเสรี ทักษิณอะไรต่าง ๆ à
¹€à¸¢à¸­à¸°à¹à¸¢à¸° แล้วจากนั้นเนี่ย ก็เอาทักษิณหลาย ๆ อันเนี่ย คำว่าทักษิณที่ผมพูดเนี่ย ไม่ใช่บุคคลที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมหมายถึงทักษิณ Model โมเดลนั้นหมายความว่า กล้าที่จะประกาศวิธีการของตัวเอง กล้าที่จะออกมาโน้มน้าวมติมหาชน แล้วเมื่อได้รับเลือกแล้วก็กล้าที่จะทำตามนั้น แล้วถ้าหากว่าประชาชนไม่รับก็กล้าที่จะยอมรับแล้วออกไปเป็นฝ่ายค้าน หรือออกจากการเมืองไป เท่าเนี๊ยะไม่ได้เหรอ มันง่ายจะตายไปแล้ว เพราะฉะนั้นระบบการเมืองมันน่าจะสั้นจบ คุณทักษิณก็ทำอะไรเหมือน Open book น่ะ ทำไมคนต้องลุ้นหวย 15 วัน เพราะอย่างอื่นมันไม่มีความหวัง ไม่รู้จะลืมตาอ้าปากยังไง ฝันเป็นหวยก็ยังดี มันถึงแว๊บจากจุดนี้ไปถึงจุดนั้นได้ไม่อายกันเหรอ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจกันว่ามันเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งอย่างนี้ จะมากระชากจากมือไปได้ยังไง ไปเอาค่านิยมตัà¸
§à¹€à¸­à¸‡à¹„ปบอกว่า ชั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องมอมเมาเอาออก อ้าวก็มึงไม่ได้หวังหวยนี่ คนหวังหวยก็มี จะทำไงเล่า ก็ต้องหาสิ่งที่เป็นทางเลือกให้กับเขา ชีวิตต้องมีอย่างหนึ่งเป็นความหวัง เช่นหวังว่า เออ ตัวจนไม่เป็นไรแต่ลูกมันได้เรียนเหมือนอย่างคนนี้มั่ง อย่างงี้มันจะแทงหวยน้อยลง หรือมีความหวังว่า เอ๊ย ถ้าป่วยเนี่ยมันเข้าโรงบาลได้เว้ย ไม่ตายอนาถา ก็จะแทงหวยน้อยลง คือคนแทงหวยเขาก็ชอบแทง ติดการพนันมันมีครับ ไม่ใช่ไม่มี แต่มันไม่เยอะขนาด 80% หรอก เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่มันก็ไม่ได้หวังอย่างอื่น แล้วเหมือน Motive ไม่มี Incentive ที่จะใช้ชีวิต เหมือนคนติดการพนันเนี่ย เกือบจะ 100% ติดการพนันเพราะชีวิตส่วนอื่นมันไม่มีสีสัน ไม่มีความเสี่ยง อยากจะเสี่ยงสนุกให้เลือดลมมันแล่น แต่บางทีมันแล่นออกนอกตัวเกินไป (เสียงหัวเราะ) นี่ผมจะไปเวกัส ต้องให้กล
้องทีวีถ่ายติดไว้ตลอดจะได้เห็น ควบคุมพฤติกรรม 
Imageเพราะฉะนั้นเนี่ย ประเด็นที่ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ก็คือ ประเทศไทยเนี่ยมันแก้ได้ แต่ว่าเราต้องเข้าใจว่า เราเนี่ย อยู่ในความหมกมุ่นกับความคิดเดิมว่าประเทศไทยอยู่ในวงจรอุบาทว์ ไม่มีหรอกครับวงจรอุบาศก์ ก้าวออกเมื่อไหร่มันก็เมื่อนั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย เราก็คลี่ออกอย่างที่ท่านว่า แก้ทีละชิ้น วงจรอุบาทว์ คืออะไร ถ้าเลือกตั้งก็ต้องเลือกให้ดี ถ้ายึดอำนาจก็ควรมีโทษ  ถ้าโกงก็ต้องเอาผิด จนบัดนี้รัฐบาลทักษิณมีปัญหาตั้งเยอะ ยังเอาผิดไม่ได้จริงสักเรื่องเดียวเลย (เสียงตบมือ) มี 4 ปี ตั้ง 9 พัน ดูเข้าไปสิ มี ผมไปร่วม คตส. ด้วยก็ได้ มี แต่ทำไมถึงเอาความคิดที่จะล้างแค้นทางการเมืองขึ้นมาก่อนความถูกต้องทางวิชาการล่ะ ทำให้กระบวนการของคุณเองน่ะเสีย แล้วคุณก็ใช้วัดอะไรไม่ได้ ต่อให้ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ให้หมดทั้งประเทศ ก็เอาผิดไม
่ได้ แล้วคนชั่วก็ลอยนวลได้ต่อไป ด้วยระบบของคุณเอง ซึ่งคุณอ้างเพราะว่าการทำงานทางการเมืองเนี่ย มันดีไปหมดไม่ได้หรอกครับ มันมีคนชั่วบางคนอย่างเราก็มี แล้วบางคนอยู่ดี ๆ สักครู่ชั่ว ก็มี เคยนั่งอยู่ด้วยกันดี ๆ ออกนอกประตูนั่นชั่วแล้ว มี พวกกันเอง แต่ว่าไม่ถึงกับเปิดเผย เพราะเดี๋ยวผมก็จะกลับไม่ได้หนักขึ้น 
เพราะฉะนั้นเนี่ย ประเด็นก็อยู่เท่า ๆ นี้ครับ ไม่มีอะไรหรอก มัน ๆ ๆ เท่านั้นแหละ เพียงแต่ว่าระบอบอมาตยาธิปไตย เขาไม่ได้อยู่กับ common sense เขาไม่ได้อยู่กับ common sense อย่างคนทั่วไป 1 + 1 ไม่เป็น 2 สำหรับคนทั่วไป 1 + 1 เป็น 2 อมาตยาธิปไตยบอก 1 + 1 ใครถาม ถามทำไม เป็นใครแล้วมาถาม คือเขาเป็นเล่นอีกหลักนึง เราจะพูด 1 + 1 เป็น 2 เขาเล่นหลักว่า แกเป็นใครมาถามชั้น มันคนละกระบวนทัศน์ คนละโลกกัน อมาตยาธิปไตยอยู่ในโลกที่เรียกว่า Virtual  World คือโลกเสมือนจริง แปลว่า รัฐบาลทักษิณเนี่ย มาเปิดหน้าต่างให้ได้เห็นว่าจริง ๆ เขาอยู่กันยังไง แล้วคนจริง ๆ เนี่ย ก็ไม่ใช่คนที่ดี 100% เป็นคนกึ่งดิบ กึ่งดีกัน อย่างที่เราบอกว่าชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน แต่ว่ามันต้องหาทางที่จะสร้างผลประโยชน์กลางให้คนอยู่ร่วมกันได้ การเมืองไม่ได้มีหน้าที่ทำให้คนกลายเป็นเทวดา แต่ทำให้เป็นคนที่ดีพอจะà¸
­à¸¢à¸¹à¹ˆà¸£à¹ˆà¸§à¸¡à¸ªà¸±à¸‡à¸„มกับคนอื่นได้ เท่านั้น เพราะนี่คือสังคมของมนุษย์ ใครอยากจะเป็นอรหันต์ก็ไป แยกไป นะครับ ไม่ต้องมาคือ ๆ ๆ เนี่ย อาบน้ำ 5 ขัน ไม่นอนกับเมีย คุณจำลอง อย่างงี้ ก็ไม่ได้ทำให้วิเศษขึ้นมาในหมู่มนุษย์ (เสียงหัวเราะ) ผมเนี่ยโมโหทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องนี้ ตั้งแต่ตอนที่ยังสนิทกันอยู่ ตอนหลังมาแตกกันเนี่ย เลยเอามาพูดได้ตอนนั้นไม่กล้า เพราะว่าสนิทกัน ท่านชอบอย่างงั้น ไอ้เราก็ไม่ชอบ มันยังไง ๆ คือ ๆ ผมไม่ชอบว่า มาโฆษณาว่าตัวเองไม่นอนกับเมียเป็นความดี ทำให้กลายเป็นมหาบุรุษ แล้วไม่ถามถึงความรู้สึกเมียเลยอ่ะ (เสียงตบมือ) ไม่คิดว่าเมียอยากมีมหาสตรีด้วยเหรอ ตกลงรึยัง (เสียงหัวเราะ) ตัวเองจะเอาดีของตัวเองยังไงเล่า เพราะฉะนั้นเนี่ย มันไม่ดีหรอกครับ ได้ความที่จะพิจิตรพิสดารกว่าคนทั่วไปมันไม่มี คนเรามีค่าเฉลี่ยที่คล้าà
¸¢à¸à¸±à¸™ ใครเป็นใหญ่อะไรก็เล่นบทนั้น 
ผมเนี่ยชอบในสหรัฐอเมริกาอีกอย่างนึง เขาจะใหญ่โต มโหฬารยังไงก็ตาม พอพ้นตำแหน่งแล้ว That’s it ผมว่าดี ใช่มั๊ยครับ รัฐมนตรีก็มาขึ้นรถ ก็มาขึ้น Subway ได้ มาขึ้น Underground ได้ มาขึ้น retro ได้ เพราะว่าเมื่อก่อนก็เป็นรัฐมนตรีก็เป็นรัฐมนตรี แต่เมื่อไม่เป็นก็ไม่เป็น ไอ้เราเนี่ย มันจมกันไม่ลง เกษียณกันแล้วก็ยังต้องมีรถเบนซ์ มีคนขับ ขับรถเองไม่เป็นซะแล้ว อย่างงี้เป็นต้นเพราะว่าสังคม Aristocrat เนี่ย เขาไม่ได้ดูว่าใครเล่นบทอะไร เขาดูว่าใครมีสถานภาพอะไร เพราะฉะนั้นการลงจากสถานภาพจึงทำมิได้ ผมเห็นคนไทยในอเมริกาเนี่ย ขอประทานโทษเถอะ ผมเห็นมีผู้สูงอายุหลายท่าน ท่านช่วยตัวเองได้ดีกว่าคนสูงอายุในเมืองไทยมาก เพราะว่าท่านดูแลตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ท่านต้องแข็งแรง เพราะท่านดูแลตัวเอง มันมี Limit ที่คนอื่นจะมาประคับประคอง แต่เมืองไทยถ้าเกิดท่านมีตำแหนà
¹ˆà¸‡ ท่านไม่ต้องขาแข็งมากก็ได้เพราะมีคนประคอง (เสียงหัวเราะ) อย่างงี้เป็นต้น แล้วก็ไม่รู้อะไรหลายอย่างนะครับ เหมือนกับ ที่นี่ก็มีตอนนั้นน่ะผมยังจำได้ แต่ว่าบ้านเรามันหนักกว่าอย่างตอนประธานาธิบดี Bush Senior ผมยังจำได้ที่หาเสียงตอนนั้น หยั่งเชิงที่รัฐ แล้วพยายามจะแสดงตัวเองว่าเป็น Layman แล้วไปซื้อของที่ ซื้อของที่ Wal-Mart หรือไงเนี่ย แล้วเสร็จแล้วไม่รู้จัก Barcode (เสียงหัวเราะ) แล้วไง เพราะแกไม่เคย Shopping ตลอดชีวิตไง แล้วไม่รู้จัก Barcode แหะ แกล้งนี่หว่า ก็เลยไอ้ความคิดที่อยากจะเป็น one of us มันก็เลยเป็น one of them อยู่อย่างงั้น เพราะ Bush เขาเป็น WAS ใช่ไม๊ครับ เขาก็เป็น establishment ของสหรัฐฯ แต่ช่างมันเหอะ มันก็ไม่แรงเท่าไหร่ อย่างเก่ง Aristocrat ของสหรัฐอเมริกาเป็น Noble family ซึ่งก็ต้องมี cost ที่ตัวเองต้องแสดงควาเป็น Noble ด้วยวิธีการ
สุดท้ายครับ ผมขอยืมหนังสือกลอนซักนิดนึงเหอะ ผมอยากขออนุญาตอ่านกลอนนี้ อีกซักครั้งไม่ทราบท่านไหนกรุณานำไปบ้าง ขอยืมมาซักนิด กลอนนี้ผมเขียนในเรือนจำ (เสียงหัวเราะ ตบมือ) ตอนช่วงที่ไปออกแบบทรงผมใหม่ ตอนนี้จอนทิ้ง เพื่อร่วมงานเขาว่า ผมมากต้องการให้ไว้ทรงนั้น ผมเขียนกลอนนี้เพราะว่า ในคืนแรกที่เราอยู่ในเรือนจำเนี่ย มีคนที่ส่งดอกไม้มากมายไปวางไว้ที่หน้าคุก มากจนกระทั่ง ผู้คุมเนี่ยทนไม่ได้ต้องนำบางส่วนเข้ามาให้เราเพื่อจะผ่องถ่าย เราจะได้เห็นดอกไม้ ธรรมดาเขาจะไม่ให้เอาเข้ามา คืนนั้นเป็นคืนที่เราอยู่ในแดน 13 อ๊ะ แดน 1 ครับ ห้อง 13 ซึ่งเป็นห้องที่รวมกับผู้ต้องขังแรกเข้าทุกคน แล้วทุกคดีมารวมที่นี่หมด แล้ว 2 อาทิตย์ถึงจะจำหน่าย หมายถึง Categorize ไปอยู่แดนต่าง ๆ ในคุกก็มีแดนของเขา เช่น แดน 2 เป็นแดนวัยหนุ่ม แดน 3 อ้า แดน 8 เป็นแดนà
¸—ี่ความผิดรุนแรง เช่นฆ่าคน ฆ่าข่มขืนอะไรต่าง ๆ พวกนี้ แต่วันแรกนี่อยู่ด้วยกันหมดเช่นฆ่าข่มขืน มือปืน (เสียงหัวเราะ) ทำให้ผมมีโอกาสได้คุยกับมือปืน คนที่นอนข้างนี่เป็นมือปืน ถัดไปเป็นฆ่าข่มขืน เราก็สัมภาษณ์กันอยู่ตรงนั้น ก็มีเรื่องอะไรเฮฮา แต่เมื่อเห็นดอกไม้นั่นแล้วเนี่ย ผมก็มีโอกาสได้ ได้เขียนกลอนนี้ โดยเขียนออกมาแล้วก็แอบบอกกับทางกระจก เพราะมีเยี่ยมญาติได้แล้วก็ก้มตัวไปมันจะมีรูที่พูดได้แล้วพูดอยู่ในห้องกระจกอีกข้าง เป็นกลอนชื่อตอกดอกไม้ ผมอยากจะจบการพูดคนเดียวที่ตรงนี้แล้วเชิญท่านคิดเอาเองนะครับ เพราะนี่คือความรู้สึกจริง ๆ ที่ได้จากการต่อสู้มาชั่วระยะหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า ผมคิดอย่างงี้มาแต่อ้อนแต่ออก ผมไม่เคยเป็นนักสู้เลย ไม่เคยสู้เพื่ออะไร เพราะไม่เคยคิดว่าตนเองจะพัฒนาความเชื่อในอะไร จนคิดจ
ะต่อสู้เพื่อมัน แต่มาถึงตอนนี้เนี่ย ก็รู้แล้วว่า สิทธิของความเป็นคนเนี่ย มันคุ้มที่จะสู้เพราะฉะนั้นก็เลยเขียนกลอนนี้ ซึ่งมีชื่อว่า ตอกดอกไม้ ผมอยากจะอ่านนะครับให้ท่านฟังเป็นการปิดตรงนี้ว่า 
ดอกไม้ในเรือนจำดูฉ่ำชื่น               ประดับคืนมืดมิดด้วยคิดถึง 
ไฟสว่างกลางเพดานวางรำพึง        ใครคิดถึงมิตรข้ายิ่งกว่าใคร
จงรู้ว่าดอกไม้ในสายฝน                 ประดับจิตใจดลให้ทนได้
อำนาจมืดจะพิชิตถึงจิตใจ              ของดอกไม้ช่อนี้ไม่มีทาง
เผด็จการระยำร้ายอย่าย้ายฝัน         ออกคำสั่งต่อไปอย่าย้ายข้าง
เมื่อตาชั่งเอียงลงไม่ตรงทาง           อย่าจับวางคงคืนให้ยืนยัง 
ใช้อำนาจอย่าได้ยั้งจงคลั่งแค้น      ให้สุมแน่นอยู่ในอกอย่าผกผัน
บารมีอำนาจล้นคนสำคัญ              จงฆ่าฟันหั่นห้ำทุกค่ำคืน
ชาวประชาธิปไตยในห้องขัง          สร้างพลังเรียนรู้เป็นผู้ตื่น
จะไม่ยอมพลีกายที่ปลายปืน          จะหยัดยืนร่วมสู้ศัตรูใจ
8 ชีวิตจิตใจ 8 วัยวุฒิ                    ผลัดกันจุดใจกระจ่างสว่างไสว
ขันติธรรมนำทางอยู่กลางใจ          ก้มหัวให้โจรคลั่งอย่าหวังเลย
ขอโทษที่เหินห่างถึงอย่างนี้          แต่ไม่มีทางสองพี่น้องเอ๋ย
เคยร่วมจิตชิดใกล้เหมือนไม่เคย    กลับมาเลยแรมร้างอยู่ห่างไกล
ขอดอกไม้เข้าใจในภาระ               ประชาชนต้องชนะไม่แพ้ได้
ช่วยส่งกลิ่นหอมรื่นให้ชื่นใจ          ไปสรรสร้างประชาธิปไตยในเรือนจำ
22 กรกฎา วันฟ้าหม่น                  เมื่อโจรปล้นซ้ำเสียบและเหยียบย่ำ
โดยขุนนางหนังหนาระอาธรรม      เมฆมืดดำลอยกลื่นเปื้อนฟ้าไทย
ต้องจดจำไว้ในจิตคิดต่อสู้            ให้เขารู้ทั่วกันไม่หวั่นไหว
ทุกข์ทำร้ายประชาชนทุกคนไทย   ใช้อำนาจบาตรใหญ่ต้องใช้คืน
เมื่อแผ่นดินสั่นสะเทือนละเลื่อนลั่น ประชาทรรประจำยุทธก็สุดฝืน
เมื่อดวงไฟมืดดับก็จับปืน              น้ำตารื้นเพราะพี่น้องท้องเดียวกัน
ดอกไม้ในเรือนจำช่วยนำสื่อ          ประกาศชื่อถือสิทธิ์จนอาสัญ (เสียงค่อย ๆ FADE...)
______________
Dr. Justin McDaniel
Dept. of Religious Studies
3046 INTN
University of California, Riverside
Riverside, CA 92521
951-827-4530
justinm at ucr.edu



More information about the Tlc mailing list