[Tlc] T-politics

justinm at ucr.edu justinm at ucr.edu
Tue Sep 9 08:57:18 PDT 2008


Forwarded from a member.
Thanks,
justin


 
เปลวสีเงิน หรือว่า"สุญญากาศอำนาจ"จะเกิด?

9 กันยายน 2551    กองบรรณาธิการ
เลขไทย-เลข ๙ เป็นเลขรหัสลับจักรวาล และถือกันด้วยว่าเป็นเลขสัญลักษณ์แทนองค์พระนารายณ์ ที่อวตารลงมาในร่าง "พระราม" เพื่อปราบมาร-ปราบอสูรที่อสัตย์ชาติ-อุบาทว์เมือง
     ในการเจิมรถ เจิมบ้านเจิมอาคาร-ร้านค้าเพื่อเอาชัย  กระทั่งการเจิมหน้าผาก  โอมมมม..เพี้ยง  ที่เห็นทั่วไป โอมมม..ก็คือการขานนามพระนารายณ์ พร้อมประจักษ์เจิม ๙ ไว้ ณ อุณาโลมนั้น
    ครับ..วันนี้-อังคารที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๑ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด  ถึงจะเป็นวันที่ ๙ เดือน ๙ ไม่เข้าเงื่อนไข "กระทิงวัน" อย่างในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่ ๙ เดือน ๙ แรม ๙ ค่ำ
    แต่วันที่  ๙  เดือน ๙ ปีนี้ ตามดาราศาสตร์ก็เป็นอย่างที่คุยกันไปวันก่อน คือดาวเกตุ-ดาว "วิญญาณธาตุ" อันมี  ๙  เป็นสัญลักษณ์ ถึงเวลาสำแดงเดชในประเภทฉับพลัน มิคาด-มิฝัน 
    ก็พลันแปรเปลี่ยน!
    ฉะนั้น  บ่าย  ๒  โมงวันนี้ ชะตา-อนาคต บนความเป็นนายกรัฐมนตรีของ "นายสมัคร  สุนทรเวช" จะเป็นอย่างไร "อยู่-หรือ-ไป" ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ทางให้บ่ายนี้ 
    ดาวเกตุ-๙  นั้น เมื่อถอดรหัสสัญลักษณ์ออกมาแล้วจะทราบว่า หมายถึงความวิปริตผิดอาเพศ เป็นดาวร่วมญาติกับราหู-๘ ฉะนั้น ถ้าเกตุ-๙ เข้าไปสัมพันธ์นัวเนียอยู่กับราหู-๘
    ราหู-อสูรที่ชั่วร้าย   เมื่อรวมหัวมั่วสุมอยู่กับเกตุ  จะกำแหงเดชศักดา จะเหยียบธรรม จะย่ำมนุษย์ เห็นชั่วเป็นชอบ-เห็นผีปอบเป็นพระ แล้วใช้มนต์ดำ และอำนาจอสูรชั่วร้าย 
    ยกโขยงตั้งแต่ ๖ โมงเช้ายัน ๖ โมงเย็น ทำลายบ้าน-กินเมือง!
    คงจำกันได้กระมังที่   ใครไม่รู้  แอบไปบูชาพระราหูที่วัดไตรมิตรฯ  ๓-๔ เดือนก่อน  นัยว่าเวลานี้ "พระราหู" กำลังทับลัคนาเกิด ณ ราศีมังกร ถ้าเป็นตามนั้น เมื่อแหงนดูดาวบนฟ้าแล้ว
    ดาวเกตุ-๙  ที่สถิตอยู่  ณ ราศีกรกฎ ธาตุน้ำขณะนี้ ทำหน้าที่เล็งดาวราหู-๘ ธาตุดินพอดิบพอดี  ครานี้  ผิดกับกรณีทั่วไป เพราะจะกลายเป็นหัวหน้าอสูรได้กำลังหนุนจากเหล่าสมุนครบแก๊ง 
    ถึงเป็น-ถึงตายในวันนี้  แต่ตามจักราศีบ่งว่า เหมือนโจรตั้งวงร่ำสุราย้อมใจ สถานการณ์ "ยังไม่จบ"! 
    อสูรมีฤทธิ์ครับ  เพราะได้พรพระศิวะ  จะไม่ตายด้วยน้ำมือเหล่าวงศ์เทวัญ แต่ว่า ต้องตายด้วยน้ำมือเหล่ามนุษย์สามัญ นั่นหมายถึงว่า ถึงตายตอนนี้-วันนี้ ก็จะยังฟื้นขึ้นมาได้
    จะยังมียกใหม่ และคงต้องรบรากัน "ขนานใหญ่" ในยกต่อไป ให้สาสมความเป็นอสูรดื้อด้าน-มารเลือดบ้า และบอกได้คำเดียวว่า ด้วย "ประชาทัณฑ์มนุษย์" เท่านั้น 
    เจ้ามารร้ายตัวนี้ จึงจะ "สิ้นฤทธิ์-ปลิดชีวี" ตามที่พระศิวะบัญชา!?
    ท่านคงทราบแล้วนะครับ ในคดี "ชิมไป-บ่นไป" ที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นพิธีกร
    ทั้งที่เป็นนายกฯ เรื่องนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.พร้อมด้วยคณะ ส.ว.ไปยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงการสิ้นสุดความเป็นนายกฯ
    ตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา  ๒๖๗ ที่ห้ามนายกฯ ไปมีตำแหน่งใดๆ ในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไร หรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใดก็มิได้ด้วย
    ตามมาตรา  ๒๖๗ นี้ ก็จะทำให้สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี (หรือรัฐมนตรีก็เถอะ) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๒ (๗)
    เมื่อวาน นายสมัครไปให้การปากสุดท้ายเองที่ศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าที่ทำไปไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน  และไม่ได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด 
    แต่ก่อนหน้านี้   เจ้าของบริษัทสปอนเซอร์รายหนึ่งมาให้การว่า เหมาจ่ายเป็นรายเดือน มีอยู่ ๒ รายการ รายการละ ๕ หมื่น/เดือน อีกรายการ ๖ หมื่น หรือ ๘ หมื่นต่อ
    เดือนนี่แหละ ผมจำไม่ชัด
    นายสมัครให้การในประเด็นนี้ว่า "ทางบริษัทได้จ่ายค่าน้ำมันและค่ากับข้าวให้กับคนขับรถ"!?
    อืมมม..จะเป็น  "เงินซุกคนรถ" เหมือนลูกพี่ที่ "ซุกหุ้นคนใช้" หรือเปล่า  ก็ติดตามกันดูนะครับ  บ่าย ๒ โมงนี้ ศาลรัฐธรรมนูญท่านจะวินิจฉัยแล้วหละว่า จะสิ้นสุด หรือไม่สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี?
    ผลจากนายสมัครพ้นสภาพนายกฯ-ถ้ามี  ก็จะทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมด "พ้นสภาพ" ไปด้วยทันที!! 
    ในกรณีอย่างนี้   ก็เหมือนกรณี "นายไชยา  สะสมทรัพย์" คือสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี 
     แต่ไม่พ้นสภาพ ส.ส.เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุ  และทั้งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดบทลงโทษอื่นใด 
    นอกจากว่า "ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง" เท่านั้น
    ด้วยการใช้กฎหมายที่ไม่ใช้จิตสำนึกควบคู่ของผู้ใช้เช่นนี้  เราจึงเห็นว่า ในการปรับ ครม.ต่อมา นายสมัครก็คัดเลือกให้นายไชยากลับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีอีก! 
    เย้ยศาลรัฐธรรมนูญ  ตบหน้าประชาชน หรือตบหน้าตัวเอง เป็นอย่างนั้นหรือไม่ ก็คิดกันเอา!? 
    บ่ายนี้ก็เช่นกัน  ถ้าศาลวินิจฉัยให้นายสมัครสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี นายสมัครก็จะหลุดจากเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี" ทันที 
    แต่สถานภาพ ส.ส.พรรคพลังประชาชนยังอยู่!
    ความโกลาหลในสังคมจะสู่จุดเดือดอีกครั้ง  ก็ตรงที่ ถ้าในที่ประชุมสภาผู้แทนไม่แคร์ความรู้สึกประชาชน ด้วยการ...
    เลือก "ส.ส.สมัคร  สุนทรเวช" กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี  เหมือนอย่างที่นายสมัครเลือกนายไชยากลับมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์!?
    นี่แหละ..เลือดจะนองพื้นหรือไม่  ก็อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงที่มี "สปิริต-จิตสำนึก" กันขนาดไหน!?
    แต่ถึงพ้นด่านนี้ไป  วันที่ ๒๕ กันยายน นายสมัครจะเจอด่าน "ศาลอุทธรณ์" ในคดีหมิ่นประมาทนายสามารถ  ราชพลสิทธิ์ ที่ศาลชั้นตั้นลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาไว้แล้ว ๒๔ เดือน
    ด้านนี้ เห็นทีจะถึงคราว "เข้าคุกจริงๆ" กระมัง? ส่วนพรุ่งนี้  ศาลท่านจะอ่านคำวินิจฉัยตอนบ่าย ถ้าผมดลใจใครได้ ก็อยากจะดลใจนาย
    สมัครว่า  ตื่นเช้าขึ้นมาวันที่  ๙ กันยายนนี้ ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปก่อน จะถือว่าเป็นการ "ทำบุญสะเดาะเคราะห์" ให้ตัวเองได้มากทีเดียว
    ทำไมผมจึงขอร้องเช่นนี้?
    คำตอบคือว่า ถ้า..ถ้านะครับ ถ้าศาลวินิจฉัยว่าสิ้นสภาพ ก็หมายความว่า ทั้งนายกฯ ทั้งรัฐมนตรีอีก ๓๕ ท่าน จะพ้นสภาพไปทั้งหมด นั่นก็คือ...
    ประเทศไทยจะเกิด "ปรากฏการณ์ใหม่" ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
    "สุญญากาศ" ทางการเมืองครับ!
    ประเทศไทยจะ  "ว่างเว้นรัฐบาล" ไม่มีองค์กรอำนาจที่ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารบ้านเมือง ซึ่งผิดกับทุกครั้งที่จะมี "รัฐบาลรักษาการ" คอยทำหน้าที่บริหารไปจนกว่าจะมี "รัฐบาลใหม่" เข้ามา
    แต่ครั้งนี้  ถ้าศาลวินิจฉัยว่าสิ้นสุด นายสมัครก็จะรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ไม่ได้  
    รัฐมนตรีทั้งหมด ก็รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้เช่นกัน เพราะความเป็นรัฐมนตรี "สิ้นสุด" ตามกันไปนั่นเอง!
    เมื่อประเทศเหลือ  ๒ สถาบันอำนาจหลัก คืออำนาจนิติบัญญัติ กับอำนาจตุลาการ  แล้วในช่วงสุญญากาศอำนาจบริหารนี้  ราชการงานเมืองทั้งหมดที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนบัญญัติกฎหมาย
    จะทำอย่างไรกัน?
    ขั้นตอนสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่  ก็ภายใน ๑ เดือน แล้วกว่านายกฯ ใหม่จะฟอร์มรัฐบาล  จะเข้าถวายสัตย์ฯ  และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อมีผลสมบูรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่บริหาร
    ภายใน ๒-๓ เดือนเป็นอย่างช้า ด้วยเงื่อนไขเวลาเช่นนี้ ในเดือนตุลาคม โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน ที่มีงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ "สมเด็จพระพี่นางฯ"
    ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ประเทศชาติ "ไร้รัฐบาล"!?
    สรุป ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องคิด-ใคร่ครวญกันก็คือ:- 
    ๑.ปัญหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  จะปล่อยไปเรื่อยๆ เพราะไม่มี "หัวหน้าบริหาร" สั่งการไม่ได้?
    ๒.ปัญหา "สุญญากาศ" ในบ้านเมือง เพราะขาดองค์กรอำนาจบริหารฉับพลัน จะแก้ไขวิธีไหน  จึงจะทำให้ประเทศไม่ว่างเว้นรัฐบาล  เพราะการปล่อยให้ประเทศ "ว่างรัฐบาล" ผลเสียหายจะเกิดขึ้นมหาศาลกว่าที่คิด?
    ๓.ถ้าไม่สามารถแก้ไขอะไรได้  นอกจาก "รอ" รัฐบาลใหม่ ระหว่างรอนี้ จะใช้อำนาจอะไรมาขับเคลื่อน "กลไกรัฐ" ในงานบริหารราชการแผ่นดิน?
    ๔.ถ้า  ๖  พรรคร่วมรัฐบาลเดิม  เป็นฝ่าย "จัดตั้งรัฐบาลใหม่" และเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ อีก สังคมจะยอมรับได้หรือไม่?
    ก็มีอีกหลายเรื่อง-หลายคำถามครับ   ผมอยากให้ช่วยกันคิดหาทางออกไว้ เพราะจะปล่อยให้ประเทศถึง "ทางตัน" เสียก่อน แล้วค่อยเถลือกไถลเหมือน "ปลาในที่ดอน" ก็เกรงว่าเกล็ดจะแห้ง-แข็งตายกันไปทั้งประเทศเท่านั้น
    นายสมัครนั้น  จิตหนึ่งผมก็ชิงชัง  อีกจิตหนึ่งผมก็เวทนา ก็ขนาดว่าอายุปาเข้าไปตั้ง ๗๒-๗๓ชั่วระยะเวลา๗วันต้องสบถ-สาบาน ทั้งในสภา และทั้งในศาล แช่งชัก ก่นด่าตัวเองเยี่ยงคนเสียสติ-บ้าใบ้ ด้วยกลัวคนไม่เชื่อในคำที่พูด คนพูดคำ-สาบานคำ คือคนแบบไหน และที่ต้องเข้าใจด้วย "สภา-ศาล" คือสถาบันที่รับมอบพระราชอำนาจมาปฏิบัติแทนพระองค์ สาบานด้วยการ "แช่งตัวเอง" ในสถานที่เช่นนี้ มีผลอย่างไรฟ้า-ดิน จะมีคำตอบให้..ในอีกไม่ช้าแล้ว.



______________
Dr. Justin McDaniel
Dept. of Religious Studies
3046 INTN
University of California, Riverside
Riverside, CA 92521
951-827-4530
justinm at ucr.edu



More information about the Tlc mailing list